ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ดราก้อนบรีทพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก-ห้ามกิน เม็ดเดียวอาจตายได้เลย


ค้นหา
ดราก้อนบรีท” (ลมหายใจของมังกร)​ พริกที่เผ็ดที่สุดในโลก-ห้ามกิน เม็ดเดียวอาจตายได้เลย
 
รู้จักกับ “พริกดราก้อนบรีท” (Dragon’s Breath – ลมหายใจมังกร) พริกที่เผ็ดที่สุดในโลก ที่หากกินเข้าไปเพียว ๆ เพียงเม็ดเดียวอาจตายได้ เนื่องจากมันมีค่าความเผ็ดสูงถึง 2.48 ล้านสโควิลล์ (Scoville – หน่วยวัดความเข้มข้นของ ‘แคปไซซิน’ ที่เป็นสารเคมีให้ความรู้สึกเผ็ดร้อน) ซึ่งเผ็ดกว่าพริกขี้หนูสวนที่เรารู้จักถึง 20 เท่า

โดยแคปไซซิน (Capsaicin) ส่วนใหญ่จะสะสมอยู่ที่เยื้อแกนกลางสีขาวของพริก หรือที่เรียกว่า “รกพริก” (Placenta) เป็นสารธรรมชาติจำพวกอัลคาลอยด์ ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ทนทานต่อความร้อนและความเย็น ดังนั้นการต้มหรือแช่แข็งก็ไม่มีผลทำให้ความเผ็ดสูญเสียไป คนส่วนใหญ่มักคิดว่าเมล็ดในพริกคือส่วนที่เผ็ดที่สุดแต่แท้จริง เมล็ดนั้นมีสารแคปไซซินอยู่น้อยมาก

ไมค์ สมิธ เจ้าของสวนทอมสมิธ ประเทศอังกฤษ ผู้คิดค้นและพัฒนาพริกสุดโหดนี้ ให้สัมภาษณ์กับ LiveScience ว่า “ผมไม่แนะนำให้ใครกินพริกนี้ทั้งสิ้น เพราะมันอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่คน ๆ นั้นได้กิน เพราะผมเคยลองชิมมัน ปรากฎว่ามันร้อนจนหูอื้อ ตาลาย มึน และลิ้นผมไหม้จนเกิดแผลพุพองในปากเลยล่ะ”

และถึงแม้จะไม่เคยมีใครเสียชีวิตด้วยการกินพริกดราก้อนบีทนี้ก็จริง แต่ในปี 2016 มีรายงานทางการแพทย์ระบุว่า “ชายชาวอเมริกันวัย 47 ปี กินเบอร์เกอร์ที่ราดด้วยซอสพริก Ghost Pepper มีค่าความเผ็ดอยู่ที่ 1 ล้านสโควิลล์  ด้วยความร้อนขนาดนี้ทำให้ชายคนดังกล่าวอาเจียนเป็นเลือด หลอดอาหารฉีกขาด กระเพาะอาหารเป็นแผลทะลุ เกิดอาการหูอื้อ มึนงง ช็อก จนสุดท้ายชายคนนั้นก็เสียชีวิตลง ซึ่งพริกชนิดนี้มีความเผ็ดน้อยกว่าพริกดราก้อนบรีทถึง 2 เท่า นั่นหมายความว่า หากกินพริกดราก้อนบรีทเข้าไปจริง ๆ ก็ไม่รอดเช่นกัน”

พอล บอสแลนด์ (Paul Bosland) ศาสตราจารย์ด้านพืชสวนแห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวเม็กซิโก ระบุว่า “สาเหตุที่ร่างกายเกิดแผลพุพองหรืออวัยวะภายในเกิดแผลเมื่อกินพริกที่เผ็ดจัด นั่นเป็นกลไกการป้องกันตัวเอง โดยแผลพุงพองต่าง ๆ จะเป็นตัวดูดซับสารแคปไซซินหรือระงับความเผ็ดในร่างกาย ซึ่งหากเกิดแผลมาก ๆ ร่างกายอาจรับไม่ไหวจนต้องเสียชีวิตลงนั่นเอง”

อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ที่แท้จริงของผู้คิดค้นและปลูกพริกสุดโหดนี้ขึ้นมา ไม่ได้หวังจะให้นำพริกสุดโหดนี้ไปปรุงอาหาร แต่ตั้งใจจะนำมันไปใช้ในทางการแพทย์เพื่อผลิตเป็นยาชาธรรมชาติ ซึ่งจะแก้ปัญหาสำหรับผู้ป่วยที่แพ้ยาชาแบบเคมีนั่นเอง
ประโยชน์ของพริก – สารแคปไซซินมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำมูก บรรเทาอาการหวัดหรือหายใจติดขัด ลดการอุดตันในหลอดเลือด ช่วยยับยั้งการสร้างโคเลสเตอรอลในตับ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากในพริกมีวิตามินซีสูง ซึ่งจะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

รายการบล็อกของฉัน