Greenovia Dodrentalisพืชอวบน้ำที่มีลักษณะเหมือนดอกกุหลาบ

พืชอวบน้ำที่มีลักษณะเหมือนดอกกุหลาบ

สมาชิก boredpanda เผยภาพของพืชอวบน้ำหลากลายสายพันธุ์ที่มีลักษณะเหมือนดอกกุหลาบ อย่างเช่นสายพันธุ์ที่มีชื่อว่า Greenovia Dodrentalis 

ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกมากที่สุด โตเต็มที่มีความสูงประมาณ 6 นิ้ว

พืชอวบน้ำเป็นพืชที่กักเก็บน้ำไว้ในราก ใบ หรือลำต้น ที่อวบ และนุ่ม ความอวบหรือความใหญ่นั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของเนื้อเยื่อพาเรงคิมา 

การเก็บน้ำในลักษณะดังกล่าว ทำให้มันสามารถมีชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้

RUBY ROMANองุ่นที่แพงที่สุดในโลกลูกละประมาณ 10,000บาท

RUBY ROMAN ทับทิมแห่งโรมัน องุ่นที่แพงที่สุดในโลก! (ลูกละประมาณ 10,000 บาท)
องุ่นพันธุ์ “รูบี้ โรมันส์ หรือ ทับทิมแห่งโรมันส์ (Ruby Romans)” จากอิชิกาว่า ทั้งพวงมี 30 ผล น้ำหนักเฉลี่ยผลละ 20 กรัม จะออกผลปีละแค่ 2,400 พวง/ปี
ได้จากการพัฒนาสายพันธุ์นาน 14 ปี โดยรัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุน แค่พวงเดียวราคา 500,000 เยนหรือกว่า 1.9 แสนบาท เกือบสองแสน!!! โดยเฉลี่ยออกมาแล้วหนึ่งลูกจะมีราคาประมาณ 7.7 พันบาท เกือบหมื่น!!!

และแน่นอนครับว่า ราคาโหดขนาดนี้ ย่อมมีที่มาที่ไม่ธรรมดา เพราะกว่าจะนำออกมาวางขายได้แต่ละพวงนั้น จะต้องผ่านการคัดสรรแล้วคัดสรรอีก โดยเกณฑ์การคัดสรรคือ แต่ละลูกจะต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 20 กรัม ความหวานต้องมากกว่า 18% และสีต้องเหมือนมะเขือเทศเชอร์รี่ เป็นต้น นี่คือระดับธรรมดา ทีนี้เรามาดู “พรีเมียม คลาส” กันบ้านดีกว่า

ระดับคุณภาพสูงสุดขององุ่น “รูบี้ โรมันส์” คือ “พรีเมียม คลาส” ซึ่งแต่ละลูกจะต้องมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 30 กรัม และทั้งพวงต้องหนักอย่างน้อย 700 กรัม จึงจะติดป้ายขายในนาม “รูบี้ โรมันส์” ได้ โดยราคาสูงสุดที่องุ่นนี้เคยขายได้ก็คือ พวงละ 400,000 บาท !!!

และนี่คือสาเหตุว่าทำไมองุ่นสายพันธุ์นี้ถึงมีราคาแพงขนาดนี้ และนี่คือคำตอบของจากเกษตรกรชาวญี่ปุ่นครับ

“ผลผลิตราคาสูงเหล่านี้แน่นอนว่าต้องอาศัยความพิถีพิถันของเกษตรกรชาวญี่ปุ่นที่มีความใส่ใจพืชผลและเพียรพยายามมากขึ้นกว่าเดิม องุ่นดังกล่าวจะมีลักษณะผลใหญ่สีแดงสวยราวกับทับทิมซึ่งเป็นความตั้งใจพยายามควบคุมองุ่นให้ออกมาได้สีแดงแบบนี้ ชาวญี่ปุ่นมองผลไม้ในแง่ของจิตวิญญาณที่จะนำไปไหว้บรรพบุรุษ, แท่นบูชาที่บ้าน รวมถึงพระพุทธ ดังนั้น เหตุผลดังกล่าวจึงทำให้ผลไม้ราคาไฮเอนด์นำมาใช้เป็นสัญลักษณ์สำคัญของการเคารพ”

“ผู้คนยอมจ่ายเงินซื้อผลไม้ราคาแพงเพื่อนำไปเป็นของขวัญพิเศษมอบให้กับผู้รับในโอกาสสำคัญหรือบุคคลสำคัญอย่างเช่นเจ้านาย ผลไม้ดังกล่าวถูกนำมาเป็นส่วนสำคัญในธรรมเนียมปฏิบัติการมอบของขวัญช่วงกลางปีและปลายปีของญี่ปุ่น ที่ผู้คนจะมอบของขวัญให้กับบุคคลที่เคารพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสานความสัมพันธ์ที่ละเอียดอ่อนและประณีตของชาวญี่ปุ่น”

ปล.เมล่อนฮอกไกโดคู่หนึ่งก็สามารถขายได้ในราคาสุดแพงที่ 3 ล้านเยน หรือประมาณ 930,000 บาท / ผลสตรอเบอรี่ในฟาร์มของนิชิโอะมีขนาดเท่าลูกเทนนิส โดยเขาผลิตแค่ปีละ 500 ลูกเท่านั้น และแต่ละลูกมีราคาสูงกว่า 500,000 เยน (155,000 บาท)

RUBY ROMAN 

อ้างอิง – abc

Yaretaพืชประหลาดแห่งเทือกเขาแอนดีสยาริตะ

🌿พืชประหลาดแห่งเทือกเขาแอนดีส “ยาริตะ” หนึ่งในสิ่งมีชีวิต ที่มีอายุมากที่สุดในโลก!

เทือกเขาแอนดีส เทือกเขาที่ยาวที่สุดในโลก โดยยอดเขาที่สูงที่สุด คือ ยอดเขาอากอนกากวา หรือ อะ คองกากัว ยอดเขาที่มีความสูง ประมาณ 6,959 เมตร และเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปอเมริกาอีกด้วย
แต่วันนี้เราไม่ได้มาพูดถึงเรื่องภูเขา แต่เรากำลังพูดถึงเจ้า Yareta หรือ Llareta ความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติในเขตเทือกเขาแอนดีส

ผมเรียกมันว่า ยาริตะ 

(ไม่รู้อ่านแบบนี้ถูกรึเปล่า) หากมองผิวเผินแล้วหลายคนๆอาจมอง ว่าเป็นมอสหรือตะไคร่น้ำเขียวชะอุ่มที่เกาะอยู่ตามโขดหิน 

ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันคือกลุ่มพืชในตระกูลไม้ดอกขนาดเล็กที่ชอบขึ้นบนก้อนหินในเขต ทะเลทรายอาตากามา 

(ทะเลทรายที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเปรูไปถึงตอนเหนือของประเทศชิลี) และยังขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลทรายแห้งแล้งที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย

เป็นพืชมหัศจรรย์ที่มีอายุมากกว่า 3,000 ปี ความพิเศษของพืชชนิดนี้ก็คือมันจะขึ้นเฉพาะในทะเลทรายเท่านั้น และที่สำคัญคัญคือจะสามารถพบเห็นพืช นิดนี้ได้ที่ระดับความสูงตั้งแต่ 3,200 – 4,500 เมตร ในบริเวณที่มีลมโกรกหรือกรรโชกตลอดเวลา 

พวกมันจะมีดอกเล็กๆ และถูกผสมเกสรโดยแมลง สำหรับการเจริญเติบโตนั้นแต่ละปีจะสูงเพียง 1.5 เซนติเมตร ปัจจุบันพืชชนิดนี้ถูกจัดให้เป็นพืชสงวนใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย

Yareta