ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560

นักวิทยาศาสตร์ยืนยัน มันฝรั่ง สามารถปลูกบนดาวอังคารได้


นักวิทยาศาสตร์ยืนยัน "มันฝรั่ง" สามารถปลูกบนดาวอังคารได้

นักวิจัยที่ศูนย์มันฝรั่งระหว่างประเทศ และ University of Engineering and Technology ที่เมืองลิม่า เปรู ยืนยันว่ามันฝรั่งสามารถปลูกได้บนพื้นดินบนดาวอังคาร หากได้รับสารอาหารและน้ำที่เพียงพอ

นักวิจัยทดลองปลูกมันฝรั่งหลายพันธุ์ที่ทะเลทราย Pampas de La Joya ในเปรู ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามีสภาพคล้ายกับดินบนดาวอังคาร และได้ปรับสภาพแวดล้อมต่างๆ ให้คล้ายกับสภาพแวดล้อมบนดาวอังคารมากที่สุด รวมทั้ง อุณหภูมิ ความกดอากาศ ระดับก๊าซอ็อกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์

โดยได้รับความช่วยเหลือจากองค์การนาซ่าของสหรัฐฯผลที่ได้นั้นน่าพอใจ โดยเฉพาะกับมันฝรั่งพันธุ์อึดที่มีความทนทานสูงต่อสภาพภูมิอากาศรุนแรงบนพื้นโลก

นั่นหมายความว่า ในอนาคตหากมีมนุษย์ขึ้นไปตั้งรกรากบนดาวอังคารจริงๆ อาหารยอดนิยมที่นั่นก็อาจไม่พ้น มั่นฝรั่งทอด หรือ French Fries เหมือนผู้คนบนโลกเช่นกัน

โรสแมรี่และออริกาโน่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด


ประเภโรสแมรี่และออริกาโน่ช่วยลดระดับ
น้ำตาลในเลือด

1. งานวิจัยจาก University of Illinois ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Agricultural and Food Chemistry ระบุว่าสมุนไพรอย่างโรสแมรี่ (Rosemary) และออริกาโน่ (Oregano) ไม่ใช่แค่เพิ่มรสชาดอาหารเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ด้านสุขภาพในการลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ผลดีพอๆ กับยาต้านโรคเบาหวาน โดยนักวิจัยชี้ว่าสมุนไพรที่ว่านี้มีสารที่เรียกว่า Polyphenol และ Flavonoid ซึ่งช่วยในการแทรกแซงการทำงานของเอนไซม์ที่เป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน
นักวิจัยยังพบด้วยว่าวิธีการปลูกสมุนไพรเหล่านี้คือปัจจัยสำคัญ กล่าวคือโรสแมรี่และออริกาโน่พันธุ์กรีซและเม็กซิกันที่สกัดออกมาใช้ในเชิงพาณิชย์ มีประสิทธิภาพในการป้องกันเอนไซม์เบาหวานชนิดที่ 2 ได้ดีกว่าสมุนไพรที่ปลูกในเรือนกระจก

2. นักวิจัยที่ University of Washington และ University of Arizona ชี้ว่าปัจจุบันแมลงที่ผสมเกสรดอกไม้และพืชผลต่างๆ ต้องใช้เวลานานขึ้นและใช้พลังงานมากขึ้นในการค้นหาดอกไม้ เนื่องจากมีกลิ่นภายนอกมารบกวน เช่นกลิ่นไอเสียรถยนต์ ทำให้ประสาทสัมผัสด้านการดมกลิ่นของแมลงเหล่านั้นไม่สามารถแยกแยะกลิ่นต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว รายงานที่ตีพิมพ์อยู่ในวารสาร Science ชี้ว่านักวิทยาศาสตร์กำลังทดสอบว่า มลพิษจากเมืองใหญ่ส่งผลกระทบต่อการผสมเกสรดอกไม้ของแมลงตามฟาร์มต่างๆ หรือไม่อย่างไร

3. รายงานจาก University of Miami ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Geology ชี้ว่าทรายที่มีเหล์กผสมในปริมาณมากจากแถบทะเลทรายซะฮาร่าในแอฟริกา ได้ถูกพัดพามาไกล 8,000 กม. ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาตกในบริเวณทะเลแคริบเบียนรอบหมู่เกาะบาฮาม่า เมื่อราว 100 ล้านปีที่แล้ว โดยนักวิจัยพบว่าทราบในแถบ Great Bahama Bank มีแบคทีเรียที่สร้างแคลเซียมคาร์บอเนตในระดับหนาแน่นพอๆ กับทรายที่พบในทะเลทรายซะฮาร่า

4. รายงานจาก University of Texas at Dallas ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Ear and Hearing ชี้ว่าการฟังเสียงดังๆ เช่นเสียงไซเรนฉุกเฉิน หรือเสียงเพลงจากเครื่องเล่น MP3 บ่อยๆ อาจทำลายสมองรวมทั้งเซลล์ประสาทหูและเซลล์ขนหูได้ และส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองเพื่อเรียบเรียงคำพูดหรือสนทนา โดยนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าเมื่อเซลล์ขนหูถูกทำลายไปจะไม่สามารถสร้างขึ้นได้ใหม่ และจะทำให้ประสามด้านการรับฟังด้อยประสิทธิภาพลงเรื่อยๆ ได้
รายงานชี้ด้วยว่าปัจจุบันคนอเมริกันวัย 20-69 ปี ราว 15% มีปัญหาด้านการรับฟัง

รายการบล็อกของฉัน