ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอังคารที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2560

มะกล่ำต้น สรรพคุณและประโยชน์

มะกล่ำต้น สรรพคุณและประโยชน์ของมะกล่ำต้น 

มะกล่ำต้น
มะกล่ำต้น ชื่อสามัญ Red sandalwood tree, Sandalwood tree, Bead tree, Coralwood tree

มะกล่ำต้น ชื่อวิทยาศาสตร์ Adenanthera pavonina L. (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Adenanthera gersenii Scheff., Adenanthera polita Miq., Corallaria parvifolia Rumph.) จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยสีเสียด (MIMOSOIDEAE
หรือMIMOSACEAE)

สมุนไพรมะกล่ำต้น มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะแค้ก หมากแค้ก (แม่ฮ่องสอน), มะหล่าม (นครราชสีมา), บนซี (สตูล), ไพ (ปัตตานี), มะแดง มะหัวแดง มะโหกแดง (ภาคเหนือ), มะกล่ำตาช้าง (ทั่วไป), หมากแค้ก มะแค้ก (เงี้ยว-แม่ฮ่องสอน), มะแค้กตาหนู (คนเมือง), กัวตีมเบล้ (ม้ง), ซอรี่เหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), กล่องเคร็ด (ขมุ), ลิไพ, ไพเงินก่ำ เป็นต้น

Note : ต้นมะกล่ำต้นเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสิงห์บุรี
ลักษณะของมะกล่ำต้น
ต้นมะกล่ำต่ำ จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เป็นไม้ผลัดใบระยะสั้น มีความสูงของต้นได้ถึง 20 เมตร เรือนยอดแผ่กิ่งกว้าง ต้นเป็นทรงโปร่ง เปลือกลำต้นหนาเป็นสีน้ำตาลอ่อน ส่วนเปลือกชั้นในนุ่มเป็นสีครีมอ่อน ๆ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดจัด พบขึ้นได้ตามป่าเต็งรังและป่าดิบแล้งที่ระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 50-400 เมตร

ใบมะกล่ำต้น ใบเป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นปลายคู่ ออกเรียงสลับกัน ลักษณะของใบย่อยเป็นรูปวงรี รูปไข่ หรือเป็นรูปขอบขนาน ปลายใบมน โคนใบไม่สมมาตรกัน ส่วนขอบใบเรียบ มีประมาณ 8-16 คู่ เรียงสลับ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1-3.5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 2-5.5 เซนติเมตร แผ่นใบบางเป็นสีเขียวเข้ม ใบเรียบเกลี้ยง ด้านหลังใบเกลี้ยงเป็นสีเขียวอมเทา ส่วนท้องใบเป็นสีอ่อนกว่าและมีนวลเล็กน้อย มีขนนุ่ม แกนกลางของใบประกอบยาวประมาณ 30-40 เซนติเมตร ก้านใบย่อยสั้น ไม่มีหูใบ ส่วนก้านใบหลักมีหูใบขนาดเล็กมากและหลุดร่วงได้ง่าย

ดอกมะกล่ำต้น ออกดอกเป็นช่อ ช่อดอกแคบยาวเป็นรูปทรงกระบอก โดยจะออกดอกตามซอกใบช่วงบนหรือแตกแขนงที่ปลายกิ่ง และจะออกดอกเป็นช่อเดี่ยวหรือหลายช่อรวมกัน ช่อดอกมีความยาวประมาณ 7.5-20 เซนติเมตร ดอกย่อยมีขนาดเล็ก มีขนาดประมาณ 0.3 เซนติเมตร กลีบดอกเป็นสีเหลืองอ่อนอมสีครีม เมื่อดอกแก่จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม มีขนอยู่ประปราย ดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ กลีบแคบ ปลายกลีบแหลม ขนาดประมาณ 2.5-3 มิลลิเมตร เชื่อมติดกันที่ฐานเป็นหลอด ก้านดอกสั้นเป็นทรงแคบ ส่วนปลายเป็นถ้วยตื้นแยกเป็น 5 กลีบ ก้านดอกยาวประมาณ 1.5-3 มิลลิเมตร มีขนเส้นไหม ส่วนกลีบเลี้ยงดอกที่โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย ดอกมีเกสรเพศผู้จำนวน 10 ก้าน อับเรณูมีต่อมอยู่ที่ปลาย ดอกจะมีกลิ่นหอมแบบอ่อน ๆ ในช่วงเย็นคล้ายกลิ่นของดอกส้ม โดยจะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน

ผลมะกล่ำต้น ออกผลเป็นฝัก ลักษณะของฝักเป็นรูปแถบแบนยาว มีขนาดกว้างประมาณ 8-12 มิลลิเมตรและยาวประมาณ 15-30 เซนติเมตร ฝักอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่แล้วจะแตกออกเป็นสองตะเข็บและบิดม้วนงอเป็นเกลียวแน่นเพื่อกระจายเมล็ด และมีรอยคอดตามเมล็ดชัดเจน เมล็ดจะติดอยู่ในฝักเป็นเวลานาน ในหนึ่งฝักจะมีเมล็ดประมาณ 10-15 เมล็ด

เมล็ดมะกล่ำต้น เมล็ดมีลักษณะค่อนข้างกลม แข็ง ผิวมัน และเป็นสีแดงเลือดนกหรือเป็นสีแดงส้ม มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5-7 มิลลิเมตร โดยจะติดผลในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม

สรรพคุณของมะกล่ำต้น
ใบมีรสฝาดเฝื่อน ใช้ต้มกินเป็นยาบำรุงกำลัง (ใบ)
ใบใช้ต้มกินเป็นยาบำรุงธาตุในร่างกาย (ใบ),เมล็ดนำมาฝนกับน้ำทาแก้อาการปวดศีรษะ หรือจะใช้เนื้อไม้ฝนกับน้ำทาขมับก็แก้ปวดศีรษะได้เช่นกัน
(เนื้อ, เมล็ด)

รากเป็นยาแก้ร้อนใน (ราก)
เนื้อไม้มีรสเฝื่อน ใช้ฝนกับน้ำกินกับน้ำอุ่นทำให้อาเจียน

ส่วนอีกข้อมูลระบุว่าใช้เนื้อไม้ต้มหรือฝนกินเป็นยาแก้อาเจียน (เนื้อไม้)
ช่วยแก้อาเจียน (ราก)
รากมีรสเปรี้ยวขื่นเย็น ใช้เป็นยาขับเสมหะ แก้เสมหะ กัดเสมหะในคอ (ราก)
ช่วยแก้หืดไอ แก้เสียงแหบแห้ง และแก้อาการสะอึก (ราก)
ช่วยแก้ลมในท้อง (ราก)
เมล็ดมีรสเฝื่อนเมา นำมาบดผสมกับน้ำผึ้งปั้นเป็นเม็ดกินแก้อาการจุกเสียด (เมล็ด)
เนื้อในเมล็ดใช้ผสมกับยาอื่นเป็นยาระบายได้ (เนื้อในเมล็ด)
ใบใช้ต้มกินเป็นยาแก้บิด แก้ท้องร่วง (ใบ)เนื้อในเมล็ดมีรสเมาเบื่อ นำมาบดเป็นผงแล้วปั้นเป็นมัด ใช้กินเป็นยาขับพยาธิไส้เดือนและพยาธิเส้นด้าย หรือจะใช้เมล็ดคั่วไฟเอาเปลือกหุ้มสีแดงออก แล้วนำมาบดเป็นผงผสมกับยาระบาย ใช้เป็นยาขับพยาธิ เบื่อพยาธิไส้เดือนหรือพยาธิตัวตืด (เมล็ด)
เมล็ดนำมาบดผสมกับน้ำผึ้ง ปั้นเป็นเม็ด ใช้กินเป็นยาแก้หนองใน (เมล็ด)
เมล็ดและใบมีรสเฝื่อนเมา เป็นยาแก้ริดสีดวงทวารหนัก (เมล็ดและใบ)
ใช้เป็นยาฝาดสมาน (ใบ)
เมล็ดนำมาบดให้เป็นผงใช้โรยใส่แผลฝีหนอง ช่วยดับพิษฝี ดับพิษบาดแผล (เมล็ด)เมล็ดนำมาฝนกับน้ำทาแก้อักเสบ (เมล็ด)
ส่วนรากช่วยถอนพิษฝี (ราก)
ใบนำมาต้มกินแก้โรคปวดข้อ แก้ลมเข้าข้อ (ใบ)

ประโยชน์ของมะกล่ำต้น
ยอดอ่อนและใบอ่อนมีรสมัน ใช้กินเป็นผักสดร่วมกับอาหารได้หลายประเภท เช่น ลาบ ส้มตำ น้ำตก และอาหารประเภทที่มีรสจัด หรือนำมาลวกจิ้มกับน้ำพริก หรือนำมาแกงก็ได้ โดยคุณค่าทางโภชนาการของยอดอ่อนมะกล่ำต้นต่อ 100 กรัม ประกอบไปด้วยโปรตีน 0.7 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 0.6 กรัม, ไขมัน 1.51 กรัม, ใยอาหาร 1.7 กรัม, วิตามินเอ 6,155 หน่วยสากล, วิตามินบี 3 37 มิลลิกรัม (ข้อมูลจากภาควิชาเทคโนโลยีการอาหารและโภชนาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม ปี พ.ศ. 2537)
เนื้อในเมล็ดนำมาคั่วกินเป็นอาหารว่างได้ โดยจะมีรสมัน
เมล็ดสามารถนำมาใช้ประดับตกแต่งเสื้อผ้าหรือตุ๊กตาได้
ไม้มะกล่ำต้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านเชื้อเพลิงได้ เพราะเป็นฟืนที่ให้ความร้อนได้สูงถึง 5,191 แคลอรีต่อกรัม
เนื้อไม้มะกล่ำต้น จะให้สีแดงที่ใช้สำหรับย้อมผ้าได้

เนื้อไม้ใช้ทำเสาบ้าน ใช้ในการก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ ทำเรือ เกวียนได้ดี ฯลฯ เพราะเป็นไม้เนื้อแข็งและหนักมีบ้างที่ปลูกมะกล่ำต้นเป็นไม้ประดับ

เอกสารอ้างอิง
ฐานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.  “มะกล่ำต้น”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก: www.phargarden.com. 
[14 พ.ค. 2014].
หนังสือสมุนไพรไทย เล่ม 1.
“มะกล่ำต้น (Ma Klam Ton)”.  
(ดร.นิจศิริ เรืองรังษี, ธวัชชัย มังคละคุปต์).  หน้า 210.
หนังสือสมุนไพรสวนสิรีรุกขชาติ.  
(คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล).  “มะกล่ำตาช้าง Red Sandalwood tree”.  หน้า 36.
หนังสือสมุนไพรในอุทยานแห่งชาติภาคเหนือ.  “มะกล่ำต้น”.  
(พญ.เพ็ญนภา ทรัพย์เจริญ). 

วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560

วิธีขจัดกลิ่นเหม็นในบ้านง่ายๆด้วย มะนาว

แนะนำเลย! 3 วิธีขจัดกลิ่นเหม็นในบ้านง่ายๆด้วย มะนาว

“มะนาว” (Lime) ผลไม้ไทยสารพัดประโยชน์ เพราะนอกจากประโยชน์ต่อสุขภาพแล้ว ยังสามารถนำมาทำความสะอาดและ ดูแลบ้านอีกด้วย โดยมีวิธีง่าย ๆปลอดภัย ปราศจากสารเคมีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่

1. ดับกลิ่นเหม็นจากถังขยะ ปัญหากลิ่นขยะที่เกาะติดถังขยะจนส่งกลิ่นเหม็นรบกวนไปทั้งห้อง โดยเฉพาะพวกขยะเปียกต่างๆ วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ คือ เพียงนำเปลือกมะนาวใส่ลงในถังขยะ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง กรดและเปลือกของมะนาวจะช่วยขจัดเชื้อโรค ดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และช่วยให้ถังขยะมีกลิ่นหอมอีกด้วย

2. ขจัดกลิ่นเหม็นในท่อน้ำทิ้งท่อน้ำทิ้งเป็นแหล่งรวมของเสียภายในบ้านเต็มไปด้วยเชื้อโรคและสิ่งสกปรกมากมาย มะนาวก็สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้ด้วยเช่นกัน เพียงผสมน้ำมะนาวครึ่งถ้วยตวงลงไปในน้ำร้อนจัดแล้วเทลงในท่อน้ำ ทิ้งไว้สักครู่จึงราดน้ำสะอาดตามลงไป มะนาวจะช่วยขจัดกลิ่นเหม็นแล้วยังช่วยขจัดคราบไขมันในท่ออีกด้วย

3.ขจัดกลิ่นเหม็นในกล่องพลาสติกปัญหาความมันและกลิ่นเหม็นเมื่อต้องล้างกล่องใส่อาหารพลาสติกที่ล้างเท่าไหร่ก็ไม่หายมัน แต่เราสามารถกำจัดได้โดยการผ่ามะนาวครึ่งลูก หรือใช้เปลือกมะนาวมาถูให้ทั่วกล่อง แล้วทิ้งไว้สักครู่จึงล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาล้างจานตามปกติ กล่องพลาสติกจะหายมันและ
ไม่มีกลิ่นเหม็นจากอาหารเหลืออยู่แล้ว

ปลูกผักบุ้งจีนในตะกร้าลอยน้ำ แค่ 20 วัน ก็เก็บขายได้เลย


ลองดูนะ! ปลูกผักบุ้งจีนในตะกร้าลอยน้ำ แค่ 20 วัน ก็เก็บขายได้เลย
ลองดูนะ! ปลูกผักบุ้งจีนในตะกร้าลอยน้ำ แค่ 20 วัน ก็เก็บขายได้เลย
วิธีการปลูกผักบุ้งจีนง่ายๆ สามารถทำไว้กินเองหรือจะขายก็ได้ แล้วแต่ถนัด ใช้เวลาเพียงแค่ 20 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว

ซึ่งวิธีการทำนั้นก็ง่ายๆ ใช้เพียงแค่ข้อปฏิบัติ 4 ข้อนี้เท่านั้นครับ
1. หาซื้อเมล็ดพันธุ์ผักบุ้งจีนตามร้านขายเอามาแช่น้ำไว้ 1 คืน

2. หาถาดที่มีรูเจาะด้านล่างให้น้ำเข้าถึงได้และรากผักบุ้งรอดลงน้ำได้ ไม่ต้องรูกว้างเอาแบบตาถี่ๆ เลย

3. หาฟองน้ำหนาประมาณ 1 นิ้ว หรือ ถ้าไม่มีก็ใช้สำลีหรือกระดาษชุบน้ำให้ชุ่มวางรองพื้นตะกร้า และให้บ่มเมล็ดพันธุ์หมกรักษาความชื้นไว้ในวัสดุนั้น

4. วางลอยถาดในภาชนะเก็บน้ำให้พื้นตะกร้าแค่แตะน้ำ ในน้ำใส่ปุ๋ยด้วย โดยปุ๋ยนั้นแล้วแต่ชอบ ถ้าให้ดีแนะนำว่าใช้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ แค่นี้ 10 กว่าวันถึง 20 ก็เก็บผักบุ้งกินได้และนำไปขายได้แล้ว
ง่ายสุดๆ ถ้าใครมีเวลามีพื้นที่ก็สามารถปลูกส่งขายที่ตลาดกันได้เลย ความต้องการบริโภคนั้นสูงอยู่แล้ว แนวทางการทำอาชีพแบบอิสระ ทำได้ที่บ้านคุณ อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนาครับ ลุ้ยเลย!!

แค่ปลูกพืชชนิดนี้ในบ้านจะช่วยดึงดูดเงินทองเข้าสู่บ้านของคุณ


ลองดูสิ..แค่ปลูกพืชชนิดนี้ในบ้านจะช่วยดึงดูดเงินทองเข้าสู่บ้านของคุณ

ต้นคลาสซูล่า ( Crassula Ovata หรือ Jade Plant ) ต้นไม้สวรรค์ หรือ ต้นใบเงิน พืชชนิดนี้ จะช่วยกรองอากาศและปกป้องคุณจากฝุ่นละอองและช่วยเพิ่มพลังงานบวกเข้ามาสู่บ้านของคุณ
คุณรู้ไหมว่าสิ่งที่เรียกว่าฮวงจุ้ยคืออะไร?
ฮวงจุ้ยเป็นปรัชญาจีนเก่าที่มีปฏิสัมพันธ์กับสภาพแวดล้อมและผู้คน ปรัชญาโบราณนี้มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับมากและนักออกแบบตกแต่งภายในนิยมนำมาใช้ร่วมกับการดำเนินงาน

ทฤษฎีที่อยู่เบื้องหลังปรัชญานี้คือทุกสิ่งบนโลกร่วมอยู่ในจักรวาลที่ไม่มีที่สิ้นสุดที่รวมเข้ากับพลังงานชีวิตหรือที่เรียกกันว่าพลังจิหมายถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตที่มีผลบวกต่อชีวิตเรา

ตามที่ผู้เชี่ยวชาญระบุไว้ พืชชนิดนี้ช่วยปล่อยพลังงานบวกที่เป็นประโยชน์ในทุกพื้นที่ของชีวิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเงิน ดังนั้นหากคุณต้องการยกระดับสถานะทางการเงินของคุณ คุณควรมีพืชชนิดนี้ไว้ในบ้านของคุณ อีกทั้งมันยังนำความโชคดีมาให้คุณอีกด้วย
ลักษณะของพืชชนิดนี้

พืชชนิดนี้เป็นที่นิยมทั่วโลก มันมีใบสีเขียวสวยงามมีลักษณะคล้ายกับเหรียญ ใบหนาเรียบเนียนสามารถออกดอกเป็นสีชมพูหรือสีขาวขนาดเล็กคล้ายรูปดาว ดอกของมันจะปรากฏในช่วงฤดูหนาวและบานสะพรั่งจนถึงฤดูใบไม้ผลิ ในเดือนตุลาคมถึงเมษายน มันจะแตกหน่อออกมาใหม่แต่จะกลายเป็นสีน้ำตาลและเติบโตเป็นไม้ยืนต้น

สัญญลักษณ์ของพืช
พืชชนิดนี้เป็นสัญลักษณ์ของโชคลาภและความโชคดี เหมาะที่จะนำไปเป็นของขวัญสำหรับขึ้นบ้านใหม่ตามที่อ้างอิงจากปรัชญาจีน และสถานที่ที่ดีที่สุดสำหรับวางพืชชนิดนี้คือมุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านคุณ นอกจากนี้จำนวนใบของพืชชนิดนี้จะส่งผลต่อโชคลาภและความมั่งคั่งอีกด้วยเช่นกัน

รายการบล็อกของฉัน