ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2565

อึ้งเลย...เมื่อเกษตรกรจีนรีวิวสวนทุเรียน ออกลูกออกผลดกเต็มต้น เรียงสวยงามราวกับจับวาง แต่ไงมีดกอยู่ต้นเดียว ?

อึ้งเลย...เมื่อเกษตรกรจีนรีวิวสวนทุเรียน ออกลูกออกผลดกเต็มต้น เรียงสวยงามราวกับจับวาง แต่ไงมีดกอยู่ต้นเดียว ?

ถ้าเป็นแบบนี้ทุเรียนไทยอาจจะถึงคราวสูญพันธุ์ได้แน่ๆถึงแม้จะจับได้ว่าเกษตรกรจีนรีวิวทุเรียนแบบสร้างภาพก็ตามแต่ยอมรับว่าการตลาดของจีนของเหนือชันมากนะครับตอนนี้

ชาวทวิตเตอร์จับโป๊ะ เกษตรกรจีนรีวิวสวนทุเรียน ออกลูกออกผลดกเต็มต้น เรียงสวยงามอย่างกับจัดวาง แต่ไหง
ดกอยู่ต้นเดียว ?

โซเชียลจับตา ทุเรียนจีน มีพารีวิวสวน อวดลูกดกเต็มต้น เรียงสวยเป๊ะ แต่เอ๊ะ... โป๊ะไหม !?

"ทุเรียน" ถือเป็นผลไม้สุดโปรดปรานของใครหลายคน ซึ่งไม่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่ชอบ แต่ชาวต่างชาติจากหลาย ๆ ประเทศก็คลั่งไคล้แบบสุด ๆ แค่ได้ลองลิ้มชิมรสไปเพียง 1 คำ ก็อาจติดใจไม่รู้ลืมจนอยากเอากลับไปปลูกที่ประเทศบ้านเกิดกันเลยทีเดียว ดังเช่นประเทศจีน ที่เริ่มมีการปลูกทุเรียนกันสำเร็จแล้ว

ยิ่งตอนนี้เกษตรกรจีนยิ่งโปรโมททุเรียนจีนว่าของเขาเนื้อแน่นกลิ่นหอมหวานอร่อยกว่าทุเรียนไทยเป็นร้อยเท่า

ทั้งนี้ ชาวทวิตเตอร์ไทยมีการแชร์คลิปเกษตรกรจีนเจ้าหนึ่ง ที่ได้พาไปชมสวนทุเรียนในจีน พร้อมโชว์กินทุเรียนเนื้อแน่นฟูแบบเต็มปากเต็มคำ ดูแล้วน่าอร่อยไม่น้อย แต่ก็ต้องสะดุดตาให้กับต้นทุเรียนที่ดูเหมือนว่าจะออกลูกออกผลดกเกินไปหน่อย แถมมองออกไปไกล ๆ ในสวน ก็เห็นว่าต้นนี้ดกอยู่ต้นเดียวเสียด้วย

จากนั้นก็มีคนเข้ามาให้ข้อมูลว่า ปกติทุเรียนจะไม่ออกผลเรียงแบบนี้ พร้อมแนบภาพสวนทุเรียนไทยประกอบ อีกอย่างต้นทุเรียนเป็นไม้เนื้ออ่อน ถ้าดกขนาดนี้ เกษตรกรจะตีดอกทิ้ง เพราะกลัวกิ่งหัก อุ้มน้ำหนักไม่ไหว

   

ตอนลูกออกก็ต้องหาเชือกมายึดกิ่งด้วย ไม่อย่างนั้นได้ล้มครืนแน่ ๆ ซึ่งจากคลิปดูเหมือนเป็นการเอาทุเรียนปลอมมาติดหรือเปล่า เพราะน้ำหนักดูเบามาก

🙄เราก็ต้องยอมรับนะครับว่า คนจีนนี่ก็เก่งเรื่องการตลาด การโปรโมทและการค้าขายการสร้างภาพแต่คุณภาพจะดีไม่ดีมันต้องขึ้นอยู่กับต้นตำรับครับ ทุเรียนไทยต้องรสชาติดีที่ 1 แน่นอน..ถึงแม้จีนจะเลียนแบบแต่รสชาตทุเรียนจีนก็คงไม่เหมือนทุเรียนไทยแท้ๆนะครับ..ประมาทไม่ได้นะครับนักค้าขายจีนเอาทุกรูปแบบ..

แปะจี้ สมุนไพรจีนสรรพคุณยามากมาย..รากและใบของพืชมีกลิ่นหอมมาก รากมีกลิ่นหอมคล้ายกับแคร์รอตป่า

แปะจี้ สมุนไพรจีนสรรพคุณยามากมาย..รากและใบของพืชมีกลิ่นหอมมาก รากมีกลิ่นหอมคล้ายกับแคร์รอตป่า

วันนี้เรามีสมุนไพรจีนแปลกๆมานำเสนอสมุนไพรตัวนี้ชื่อว่าแปะจี้ สมุนไพรต่างๆถ้ารู้จักใช้มันก็มีประโยชน์นะครับแล้วก็มีทั้งโทษทุกสิ่งทุกอย่างมันมีประโยชน์และมีโทษมีพิษควบคู่กันไปมันขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะนำไปใช้ในลักษณะไหน..

🌿แปะจี้ในภาษาจีนแต้จิ๋ว หรือ ไป๋จื่อในภาษาจีนกลาง (จีน: 白芷; พินอิน: bái zhǐ;) ชื่อวิทยาศาสตร์: Angelica dahurica) อยู่ในวงศ์ผักชี (Apiaceae) เป็นพืชท้องถิ่นใน ไซบีเรีย ตะวันออกไกลของรัสเซีย มองโกเลีย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และ ไต้หวัน รากภายนอกเป็นสีเทาขาวหรือสีเหลืองขาว ด้านในสีขาวรากใช้เป็นยาแก้ปวดบวม ไข้หวัด 

👉🏿🌿ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
เป็นไม้ต้นขนาดเล็กที่มีความสูงประมาณ 1–2.5 เมตร พืชมักมีรากกลมสีน้ำตาล หนาประมาณ 2–5 เซนติเมตร ลำต้นมีสีเขียวอมม่วง มีลายนูน และมักมีเส้นผ่านศูนย์กลางหนา 2-8 เซนติเมตร

👉🏿ในปีแรกต้นแปะจี้ยังคงสภาพเป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก พุ่มสูงไม่เกิน 75 เซนติเมตร เดิบโดได้ดีในดินที่อุดมสมบูรณ์ ลำต้นออกสีม่วงแดงเข้มที่โคนต้น เมื่ออายุสองหรือสามปี เส้นผ่านศูนย์กลางลำต้นมีขนาด 2.5 เซนติเมตร กลวงเป็นโพรงตรงกลางและแข็ง สูงได้ 2.5 เมตร

🌿ใบประกอบแบบขนนก ซับซ้อน ยาว 25–50 เซนติเมตร กว้าง 25–40 เซนติเมตร ใบย่อย ยาว 4–10 เซนติเมตร กว้าง 1–4 เซนติเมตร

👉🏿ดอกไม้สีขาว โคนดอกเขียว ช่อดอกบานกว้างมีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 30 เซนติเมตร ดอกกะเทย ผสมเกสรด้วยแมลง อาจผสมเกสรด้วยตัวเอง ออกดอกในฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคม หรืออาจถึงกันยายน

เมื่อดอกแก่ ช่อดอกเปลี่ยนช่อเมล็ด กลายเป็นสีน้ำตาลและมีลักษณะเป็นแผ่น ๆ เมื่อแก่ ออกผลตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงตุลาคม

👉🏿รากและใบของพืชมีกลิ่นหอมมาก รากมีกลิ่นหอมคล้ายกับแคร์รอตป่า (Daucus carota) และรสขมฉุน

ถิ่นกำเนิดและการแพร่กระจายพันธุ์
แปะจี้ (A. dahurica) เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออก เช่น ประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และบางส่วนของไซบีเรีย เจริญได้ดีที่ความสูง 500–1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล บนพื้นที่ป่าโปร่ง หรือพื้นที่เปิดแดดส่องถึงระหว่างยอดไม้สูง และใน ทุ่งหญ้า เพาะปลูกมากในประเทศจีนเพื่อเป็นยาแผนจีน เช่น พันธุ์ปลูก A. dahurica var. dahurica และ A. dahurica var. formosana

👉🏿🙄พิษ
นอกจากสรรพคุณทางยาของพืชชนิดนี้แล้ว แปะจี้นี้ยังประกอบด้วย furocoumarins ซึ่งทำให้ผิวหนังเพิ่มความไวต่อแสงแดดและอาจชักนำให้เกิดโรคผิวหนังบางอย่างได้ สารประกอบอีกชนิดหนึ่งคือ angelicotoxin เป็นสารออกฤทธิ์พบในราก

ซึ่งมีผลกระตุ้นต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาทส่วนกลาง และระบบหลอดเลือดของร่างกาย โดยมีผลเพิ่มอัตราการหายใจ ความดันโลหิต ลดอัตราชีพจร เพิ่มการผลิตน้ำลาย และกระตุ้นให้อาเจียน หากบริโภคในปริมาณมากสารพิษ angelicotoxin สามารถทำให้เกิดอาการชักและเป็นอัมพาตได้

👴ก่อนจะจบบทความนี้ผมก็มีคลิปวีดีโอมาประกอบให้ชมเพื่อความเข้าใจในสมุนไพรลักษณะนี้.....

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มันมีทั้งคุณและโทษควบคู่กันไปนะครับไม่ว่าจะสมุนไพรหรือว่ายาฝรั่งมันก็แล้วแต่...เราจะนำมาใช้นะครับ.....ทางที่ดีเราควรรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้แข็งแรงสมบูรณ์ดีกว่าครับ...การปลอดภัยจากโรคต่างคือลาภอันประเสริฐที่แท้จริงสำหรับมนุษย์ครับ

รายการบล็อกของฉัน