ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ต้นไม้แปลก ต้นไทรในปล่องโรงสี ใจกลางกรุงเทพฯ


🌲ต้นไม้แปลก ต้นไทรในปล่องโรงสี ใจกลางกรุงเทพฯ
ฮือฮา !! Unseen Bangkok"ต้นไม้แปลก
ต้นไทรในปล่องโรงสี ใจกลางกรุงเทพฯ" 


ต้นไม้ที่มีลำต้นสี่เหลี่ยมนี้ คือต้นไทรที่เติบโตจนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับปล่องโรงสีข้าว อยู่ที่เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ น่าจะเกิดจากนกกินลูกไทร แล้วถ่ายเมล็ดไทรทิ้งไว้ในปล่องโรงสีข้าวที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว เมื่อวันเวลาผ่านไป ก็เติบโตแผ่กิ่งก้านสาขา รากชอนไชจนเต็มด้านในของปล่องโรงสี แล้วแทรกลงดิน


คนท้องถิ่นที่มีอายุประมาณ50ปีเล่าว่าเห็นต้นไทรนี้ตั้งแต่จำความได้มีความสูงใหญ่มองเห็นได้แต่ไกล ฐานของปล่องไฟกว้าง 2.75 เมตร ต้นไทรรวมปล่องโรงสีข้าวสูงประมาณ 26 เมตร

เมื่อธรรมชาติอยู่ร่วมเป็นเนื้อเดียวกับสิ่งก่อสร้าง ก็กลายเป็นความแปลกตา น่าชม ไม่น่าเชื่อเลยว่า ในกรุงเทพฯ จะมีอย่างนี้


พิภพ บุษราคัมวดี ช่างภาพและนักเขียนสารคดีท่องเที่ยว ได้พบเห็นต้นไทรนี้ขณะล่องเรือเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมาได้เดินทางไปบันทึกภาพต้นไทรในปล่องโรงสีนี้หลายครั้ง
ภาพชุดนี้ถ่ายไว้เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ.2557

พบใบชาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกในสุสานราชวงศ์ฮั่น


พบใบชาที่เก่าแก่ที่สุดในโลกในสุสานราชวงศ์ฮั่นพบใบชาโบราณอายุกว่า 2,150 ปีในสุสานจักรพรรดิจีน

นักโบราณคดีจีนขุดพบใบชาโบราณอายุเก่าแก่ย้อนไปถึงสมัยจักรพรรดิองค์ที่ 4 แห่งราขวงฮั่นตะวันตกหรือกว่า 2,150 ปีมาแล้ว ในบริเวณสุสานจักรพรรดิใกล้บริเวณเมืองซีอาน มณฑลส่านซี การขุดค้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1998 แต่ต้องอาศัยเวลากว่า 18 ปีเพื่อจะได้รับการยืนยันอายุของใบชาที่พบในสุสานนี้


ราชวงศ์ฮั่นตะวันตก อยู่ในช่วง 202 ปีก่อนคริสต์ศักราช ยาวนานมาจนถึงช่วง ค.ศ. 8 ตั้งเมืองหลวงอยู่ที่เมืองฉางอาน ยุคนี้ถือเป็นยุคทองของจีน บ้านเมืองมีความเงียบสงบปนะชาชนมังคั่ง จนคนจีนในยุคหลังจะเรียกตัวเองว่าเป็นชาวฮั่น แต่ความนิยมในการบริโภคชานั้น ตามหลักฐานแล้วกลับมาบูมเอาในอีกหลายร้อยปีถัดมา นั่นคือสมัยราชวงศ์ถัง หรือในช่วง ค.ศ.618- ค.ศ 907 ซึ่งเป็นสมัยหลังยุคสามก๊ก


การที่พบใบชาที่เก่าแก่จนเรียกว่าเป็นต้นกำเนิดใบชาครั้งนี้ นักวิจัยเชื่อกันว่าคนในสมัยฮั่นจะนำใบชามาบริโภคในลักษณะของยามากกว่าดื่มเพื่อความสำราญเหมือนในสมัยถังหรือสมัยหลังจากนั้นมาการค้นพบนี้ตีพิมพ์ในรายงาน The journal Scientific Reports

วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

สมอดีงูเป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่มีชื่อแปลกๆแต่มีสรรพคุณทางยาใช้ผลระบายอุจจาระพุ่งแรงกว่าสมอชนิดอื่น

สมอดีงู




เป็นพันธุ์ไม้ยืนต้นที่มีชื่อแปลกๆแต่มีสรรพคุณทางยาใช้ผลระบายอุจจาระแรงกว่าสมอชนิดอื่น เมื่อกินผลของมันแล้วใครที่ท้องผูกอาจจะอุจจาระพุ่งปรี๊ดสบายท้องตัวเบา 


แต่อย่างไรอย่างไรก็ต้องได้การรับรองหรือแนะนำจากผู้รู้นะครับการจะกินยาสมุนไพรแบบนี้มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียถ้ารู้จักเอามาใช้ประโยชน์ในทางที่ถูกต้องก็จะมีผลต่อการรักษาที่ดีแน่นอน


สมอดีงู ชื่อวิทยาศาสตร์: Terminalia citrina Roxb. ex Fleming เป็นพืชในวงศ์สมอ Combretaceae[1] ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ สมอหมึก (พัทลุง), สมอเหลี่ยม (ชุมพร) เป็นต้น

ลักษณะของพืช
เป็นพรรณไม้ยืนต้น แตกกิ่งก้ายสาขาแผ่ออก เปลือกไม้เรียบสีน้ำตาลแกมเทา มีพูพอนขนาดเล็กที่โคนต้น ใช่เมล็ดในการขยาพันธ์ ขนาดประมาณ 150-200 เซนติเมตร และสูงประมาณ 20-30เมตร จัดเป็นพรรณไม้กลางแจ้ง เจริญเติบโตได้ดีในบริเวรที่มีดินชื่น 

พบได้ทั่วไปในประเทศส่วนใหญมักพบบริเวณชายฝั่งทะเลภาคใต้ของประเทศไทย ใบเดี่ยว ออกตรงข้างกันเป็นคู่ๆ รูปร่างมนรีปลายใบแหลม ใบเกลี้ยงสีเขียว มีต่อม1-2คู่ไกล้โคนใบ ดอกจะไม่มีก้าน ไม่มีกลีบดอก แต่มีเกสร ดอกออกเป็นตามง่ามใบ และเชื่อมติดกันเป็นหลอด ผลรูปกระสวยกลม หัวท้ายแหลม ผลสดสีแดงเข้ม ขนาดเล็กเรียว ผลแห้งสีดำเข้ม ผลมีรสขมฝาด ในผลมีแทนนินมาก


สรรพคุณทางยา
ส่วนผลที่มีรสขมฝาดรักษาโรคเกี่ยวกับช่องท้อง แก้ลม แก้พิษ แก้โลหิตเป็นพิษ แก้เสมหะโลหิต และยังใช้เป็นยาแก้ไอ แก้เจ็บคอได้ ในทางสมุนไพร ใช้ผล แก้พิษดี พิษโลหิต แก้ไอ ขับโลหิตระดูสตรี ถ่ายพิษไข้ พิษเสมหะและโลหิต แก้เจ็บคอ ถ่ายอุจจาระธาตุ 


ระบายอุจจาระแรงกว่าสมอชนิดอื่นมาก ใช้รักษาโรคเกี่ยวกับช่องท้อง เป็นยาฝาดสมาน รักษาโรคท้องร่วงอย่างแรง ทางภาคเหนือใช้แก้ตะคริว นอกจากนั้น ยังเป็นส่วนประกอบในตำรับยาที่เรียกยาถ่ายดีเกลือฝรั่ง ใช้แก้ท้องผูก


สรรพคุณของสมอดีงูก็อย่างที่บอกแล้วนะครับมันใช่แก้ท้องผูกระบายท้องและอื่นๆอีกแต่ก็ควรใช้แต่พอเหมาะพอควรและได้รับการแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์หรือว่าหมอจะดีกว่านะครับ


วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

ต้นจามจุรียักษ์ กาญจนบุรี

ต้นจามจุรียักษ์ กาญจนบุรี


ต้นจามจุรียักษ์ ที่มีอายุกว่า 100 ปี กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี 

ยิ่งหากเดินทาง
ไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 
ด้วยแล้ว จะได้เห็นดอกต้นจามจุรีสีชมพู่กำลังบานสะพรั่งอยู่เต็มต้น
ต้นจามจุรีนี้มีขนาดใหญ่มาก จะมีทรงพุ่มที่งดงาม 
ได้รูปทรงแตกต่างจากต้นอื่นๆ 
- รัศมีทรงพุ่มเฉลี่ย 25.87 เมตร 
- เส้นผ่าศูนย์กลางร่มเงา 51.74 เมตร 
- เส้นรอบวงร่มเงา 162.80 เมตร 
-เส้นรอบวงลำต้น 
(วัดที่ระดับความสูง 1.20 เมตร) 7.83 เมตร -ความสูงเรือนยอด 20 เมตร - พื้นที่ร่มเงา ประมาณ 2,101 ตารางเมตร หรือ 1 ไร่ 1 งาน กว่าๆ


วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2567

สาคู (ปาล์ม)ปาล์ม แปลกๆซึ่งมีแป้งในลำต้นและนำมาผลิตเป็นสาคู ทำประโยชน์ได้มากมาย


สาคู (ปาล์ม)ปาล์ม แปลกๆซึ่งมีแป้งในลำต้นและนำมาผลิตเป็นสาคู ทำประโยชน์ได้มากมาย

นี้เราจะมานำเสนอเรื่องสาคูแต่ไม่ใช่สาคูเปียกมะพร้าวอ่อนหรือว่าสาคูไส้ไก่ไส้เนื้อนะครับแต่มันเป็นสาคู (ปาล์ม)
สาคู (ปาล์ม)


ต้นสาคู

การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร:Plantae
ไม่ได้จัดลำดับ:Angiosperms
ไม่ได้จัดลำดับ:Monocots
ไม่ได้จัดลำดับ:Commelinids
อันดับ:Arecales
วงศ์:Arecaceae
สกุล:Metroxylon
สปีชีส์:M.  sagu
ชื่อทวินามMetroxylon sagu
Rottb.
บทความนี้เกี่ยวกับปาล์ม สำหรับความหมายอื่น ดูที่ สาคู

การเก็บเกี่ยวแป้งสาคูจากต้น
การกรองแป้งสาคู
ปาล์มสาคู (ชื่อวิทยาศาสตร์: Metroxylon sagu) เป็นพืชจำพวกปาล์มชนิดหนึ่ง ซึ่งมีแป้งในลำต้นและนำมาผลิตเป็นสาคู ภาษามลายูเรียก sagu เป็นที่พบตามที่ชื้นแฉะ ถิ่นกำเนิดอยู่ที่นิวกินีและหมู่เกาะโมลุกกะประเทศอินโดนีเซีย และบริเวณใกล้เคียง กระจายพันธุ์ในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ปาปัวนิวกินี และตอนใต้ของไทย


ต้นสาคูที่อายุ 9 ปี ขึ้นไปจะสะสมแป้งในลำต้นมาก เมื่อโค่นต้นจะจะลอกเอาแป้งที่มีลักษณะข้นเหนียวมาทำอาหารได้ เป็นอาหารที่ใช้ในยามขาดแคลนข้าว ในเกาะบอร์เนียว โดยนำแป้งไปใส่ถุงเสื่อแขวนไว้ให้ลอดช่องออกมาเป็นเม็ด ๆ นำไปตากแห้ง แล้วจึงนำไปทำอาหาร เมื่อเริ่มมีพ่อค้าจากจีนและตะวันตกเข้ามาค้าขายในบริเวณหมู่เกาะโมลุกกะ เมื่อได้ชิมอาหารที่ปรุงจากสาคูและมีความชื่นชอบ ทำให้แป้งสาคูกลายเป็นสินค้า ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยเม็ดสาคูที่ทำจากแป้งมันสำปะหลัง แป้งสาคูบริสุทธิ์มีอะไมโลส 27% อะไมโลเพกติน 73%


แป้งจากปาล์มสาคูเป็นอาหารหลักในนิวกินี ส่วนในอินโดนีเซียและมาเลเซียใช้ทำเค้กและคุกกี้ เส้นก๋วยเตี๋ยวและขนมแห้งต่าง ๆ ในสหรัฐใช้ทำคัสตาร์ด ในทางอุตสาหกรรมใช้รักษารูปทรงในการผลิตกระดาษและเส้นใย ผสมในการผลิตไม้อัด ลำต้นอ่อนไส้กลวง และเศษน้ำที่เหลือจากการผลิตแป้งใช้เป็นอาหารสัตว์ เปลือกลำต้นใช้เป็นวัสดุก่อสร้างและเชื้อเพลิง ก้านใบใช้ทำฝาผนัง เพดาน และรั้ว ใบอ่อนใช้สานตะกร้า ยอดอ่อนรับประทานเป็นผัก หนอนของด้วงสาคูนำมารับประทานได้ ในหมู่เกาะโมลุกกะนิยมนำเห็ดฟางที่ขึ้นอยู่ในกากที่เหลือจากการผลิตแป้งมารับประทาน


 ใบสาคูนำมาเย็บเป็นตับใช้มุงหลังคาและฝาบ้าน ก้านใบนำมาลอกเปลือกนอกออก นำไปจักสานเป็นชะลอมหรือแผงวางของได้ ผลของต้นสาคูรับประทาน ในภาคใต้ของไทยนิยมนำต้นสาคูไปสับใช้เป็นอาหารสัตว์ ไม่ได้นำไปทำแป้งสาคูแล้ว


เต่าร้างยักษ์ต้นไม้ที่อ่อนไหวออกดอกแล้วตายปาดน้ำตาลจากช่อดอกได้ ยอดอ่อนต้มสุกรับประทานได้พบในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย


เต่าร้างยักษ์ต้นไม้ที่อ่อนไหวออกดอกแล้วตายปาดน้ำตาลจากช่อดอกได้ ยอดอ่อนต้มสุกรับประทานได้พบในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย

เต่าร้างยักษ์วันนี้ก็จะนำเสนอต้นไม้แปลกๆอีกเช่นเคยมันคือต้นเต่าร้างยักษ์


แต่ขอเตือนไว้เลยนะครับว่าอย่าไปถูกน้ำในลูกเต่าร้างโดยเด็ดขาดเพราะว่ามันจะคันแสบเลยล่ะครับมันมีพิษแน่นอนผลลูกของต้นเต่าร้างน่ะ

ผล ลักษณะเป็นผลสดแบบมีเนื้อเมล็ดเดียว สีเขียวแกมเหลือง ออกเป็นพวง ๆ ลักษณะเป็นรูปทรงกลมหรือกลมแป้น มีขนาดประมาณ 1-2 เซนติเมตร 


👉เนื้อผลชุ่มไปด้วยน้ำเลี้ยง ซึ่งเป็นพิษและทำให้ระคายเคือง ผลเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีส้มหรือสีแดงเข้มถึงสีม่วงคล้ำหรือดำ ภายในผลมีเมล็ด 1 เมล็ด

แต่ที่จะนำเสนอนี้เป็นต้นเต่าร้างอีกสายพันธุ์หนึ่งพบในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ปาดน้ำตาลจากช่อดอกได้ ยอดอ่อนต้มสุกรับประทานได้

เต่าร้างยักษ์


การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร:Plantae
ไม่ได้จัดลำดับ:Angiosperms
ไม่ได้จัดลำดับ:Monocots
ไม่ได้จัดลำดับ:Commelinids
อันดับ:Arecales
วงศ์:Arecaceae
วงศ์ย่อย:Coryphoideae
เผ่า:Caryoteae
สกุล:Caryota
สปีชีส์:C.  rumphana
ชื่อทวินาม Caryota rumphana
เต่าร้างยักษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์: Caryota rumphana เป็นพืชในวงศ์ Palmae เป็นปาล์มต้นเดี่ยว ขนาดใหญ่ ไม่มีหนาม ปล้องบนลำต้นยาว แผ่นใบเป็นร่องรูปตัว V ใบประกอบแบบขนนก 2 ชั้น 


ก้านใบยาวขนาดใหญ่ ออกดอกแล้วตาย ดอกช่อ แขนงช่อยาว ผลมี 1-3 เมล็ด ผลสีแดงเข้ม พบในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ปาดน้ำตาลจากช่อดอกได้ ยอดอ่อนต้มสุกรับประทานได้ ใบใช้มุงหลังคา เส้นใยในกาบใบใช้ทำเชือก ใช้เป็นไม้ประดับ

วันอังคารที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2567

กระดุมทองไม้พุ่มขนาดเล็กดอกสวยมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง


กระดุมทองไม้พุ่มขนาดเล็ก


กระดุมทอง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Melampodium divaricatum) เป็นพืชในวงศ์ทานตะวัน ลักษณะเป็นไม้เลื้อยหรือไม้พุ่มขนาดเล็ก อายุสั้นประมาณ 2 ปี ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปไข่ ขนาด 1–5 × 3–10 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบหรือหยักซี่ฟัน แผ่นใบมีขนสากทั้งสองด้าน 

ดอกออกเป็นดอกเดี่ยวหรือเป็นคู่ตามซอกใบ กลีบดอกรูปรีสีเหลือง เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 2–3 เซนติเมตร โคนช่อดอกมีใบประดับรูปรีเรียงซ้อนกัน 2 ชั้น ชั้นนอกมีโคนเชื่อมติดกัน ส่วนชั้นในหุ้มผลไว้ ผลเป็นแบบแห้งแตก รูปสามเหลี่ยมยอดแบน ภายในมีเมล็ดสีดำขนาดเล็ก


ข้อมูลเบื้องต้น กระดุมทอง, การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ ...


กระดุมทองมีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกา นิยมปลูกเป็นไม้ดอกกระถาง ไม้ประดับบนแปลง หรือเป็นไม้คลุมดิน โดยปลูกบนดินร่วนปนทราย ต้องการน้ำปานกลาง แสงแดดเต็มวันหรือครึ่งวัน

ผักตาโค้ง ผักเบี้ยดอกเหลือง ผักเบี้ยใหญ่ และ ผักอีหลู สุดท้ายก็มาจบที่ชื่อว่าคุณนายตื่นสาย


ผักตาโค้ง ผักเบี้ยดอกเหลือง  ผักเบี้ยใหญ่ และ ผักอีหลู สุดท้ายก็มาจบที่ชื่อว่าคุณนายตื่นสาย

ทำไมถึงชื่อว่าต้นคุณนายตื่นสายเรามีคำตอบมาให้คุณครับก็เพราะว่า ดอกของนายตื่นสายเป็นหยักเป็นคลื่น จะบานเมื่อได้รับแสงแดดตอนเช้า ดอกบานเต็มที่กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร  นี่ละครับจึงเป็นที่มาของดอกไม้ที่ชื่อว่าคุณนายตื่นสาย


คุณนายตื่นสาย (อังกฤษ: Common Purslane, Verdolaga, Pigweed, Little Hogweed หรือ Pusley) เป็นพืชล้มลุก อวบน้ำในวงศ์ผักเบี้ย สามารถสูงได้ถึง 40 ซม.มีประมาณ 40 สายพันธุ์ในการปลูกเลี้ยงในปัจจุบัน มีการกระจายพันธุ์ในโลกเก่าตั้งแต่แอฟริกาเหนือถึงตะวันออกกลางและอนุทวีปอินเดียถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสตราเลเซีย ดอกชนิดนี้บานเมื่อมีแสงแดดส่องทั่วถึง


ข้อมูลเบื้องต้น คุณนายตื่นสาย, การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ ...
คุณนายตื่นสายมีชื่อพื้นเมืองอื่นอีกดังนี้: ผักตาโค้ง (นครราชสีมา) ผักเบี้ยดอกเหลือง (กลาง) ผักเบี้ยใหญ่ (กลาง) และ ผักอีหลู (เงี้ยว แม่ฮ่องสอน)

ลักษณะทางพฤษศาสตร์
คุณนายตื่นสายเป็นไม้คลุมดิน ลำต้นอวบน้ำสีม่วงแดง แผ่ทอดเลื้อยไปตามผิวดิน ใบเดี่ยว เรียงสลับ ใบรูปไข่กลับแกมรูปรี กว้าง 1-2 เซนติเมตร ยาว 2-3 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบอวบน้ำ ผิวใบด้านบนสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม บางพันธุ์มีขอบใบขลิบสีแดง


ดอกสีขาว ชมพู แดง เหลือง ส้ม ออกเป็นดอกเดี่ยวตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบดอกชั้นเดียว บอบบาง ขอบกลีบดอกหยักเป็นคลื่น บานเมื่อได้รับแสงแดดตอนเช้า ดอกบานเต็มที่กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ผลแห้งแตก มีเมล็ดจำนวนมาก


ทุกวันนี้เราดูข่าวเรามัวแต่เสพข่าวดูข่าวที่เครียดๆๆไม่ว่าจะเป็นข่าวสงครามหรือข่าวปั่นเขมรปั่นข่าวปลอมหรือบทความมากกว่าน้อยกว่า มากที่สุดน้อยที่สุด
เราก็รู้สึกเบื่อนะครับ

ลองหันมาหาดูบทความที่เกี่ยวกับดอกไม้ใบไม้ธรรมชาติดูกันดีกว่าสุขภาพจิตเราก็จะดีไปด้วยนะครับ

รายการบล็อกของฉัน