ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอังคารที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2564

The Senator เป็นหนึ่งในต้นไซเปรสที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลกมีอายุประมาณ 3,500


The Senator’ เป็นหนึ่งในต้นไซเปรสที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลกมีอายุประมาณ 3,500 ปี ก่อนที่มันจะถูกเผา ต้นไซเปรสนี้มีความสูง 36 เมตร เส้นรอบวง 10.7 เมตร ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเล็กๆ ในเมือง Longwood รัฐฟลอริดา

แต่น่าเสียดายที่ The Senator ถูกไฟไหม้ในปี ค.ศ. 2012 จากฝีมือของ Sarah Barnes และเพื่อนที่สูบบุหรี่ใกล้ต้นไม้ แล้วทิ้งบุหรี่เข้าไปในโพรงทำให้ต้นไม้ไหม้จากด้านใน จนเมื่อปี ค.ศ. 2014 The Senator กลายเป็น 1 ใน 10 ต้นไม้ที่ถูกโคลนนิ่ง แล้วนำไปปลูกในสวน พร้อมตั้งชื่อว่า ‘The Phoenix’

รู้หรือไม่ ?

ในปี ค.ศ 2013 กลุ่มศิลปินได้รับอนุญาตให้ทำแจกัน ปากกาขลุ่ย และประติมากรรมต่างๆ จากซากต้น The Senator เพื่อนำไปจัดแสดงใน 3 พิพิธภัณฑ์ คือ Smithsonian Institution Building, Florida Museum of Natural History-Exhibits และ Ripley’ s Believe It or Not! ประเทศสหรัฐอเมริกา

อายุ : ประมาณ 3,500 ปี 
สายพันธุ์ : Pond cypress ( Taxodium ascendens ) 
ที่ตั้ง : Longwood, Florida 
สถานะ : ตายแล้ว

Gran Abuelo ต้นไม้มีชีวิตที่เก่าแก่ มันมีอายุประมาณ 3,622 ปี


‘Gran Abuelo’ ในภาษาสเปนหมายถึง ‘ปู่ทวด’ ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติ Alerce Costero ประเทศชิลี เป็นต้นไม้มีชีวิตที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกาใต้ สูงประมาณ 60 เมตร มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 เมตร และเส้นรอบวงของ 11 เมตร อายุของ Gran Abuelo ได้รับการพิจารณาในปี ค.ศ. 1993 หลังจากนักวิจัยตรวจสอบวงปีก็ได้ข้อสรุปว่า มันมีอายุประมาณ 3,622 ปีในขณะนั้น

รู้หรือไม่ ?

ต้นไม้สายพันธุ์ Patagonian Cypresses อย่าง Gran Abuelo นั้นมียางไม้ชนิดพิเศษที่ช่วยให้เนื้อไม้สลายตัวช้าลง แม้จะถูกฝังอยู่ในดินหรือจมลงน้ำเป็นเวลานาน ซึ่งสรรพคุณนี้ทำให้ต้นไม้ในสกุลนี้มักถูกตัดเพื่อนำไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้าง

อายุ : 3,648 ปี 
สายพันธุ์ : Patagonian Cypress (Fitzroya cupressoides ) 
ที่ตั้ง : Los Rios Region, Chile
สถานะ : ยังมีชีวิต

วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2564

Sarv-e Abarkuh’ หรือที่เรียกว่า Zoroastrian Sarv เป็นต้นไม้สกุลไซเปรซ ตั้งอยู่ในเมือง Abarkuh ของประเทศอิหร่าน เชื่อกันว่าเป็นต้นไม้อีกต้นหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก


‘Sarv-e Abarkuh’ หรือที่เรียกว่า Zoroastrian Sarv เป็นต้นไม้สกุลไซเปรซ ตั้งอยู่ในเมือง Abarkuh ของประเทศอิหร่าน เชื่อกันว่าเป็นต้นไม้อีกต้นหนึ่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยคาดการณ์อายุของมันอยู่ระหว่าง 4,000 – 5,000 ปี ตำนานกล่าวว่า Sarv-e Abarkuh ปลูกโดย ‘Zoroaster’ ผู้พยากรณ์ชาวอิหร่าน หรือ ‘Japheth’ ลูกชายคนที่สามของร่างโนอาห์นั้นเอง

Sarv-e Abarkuh เป็นอนุสาวรีย์ทางธรรมชาติแห่งชาติและได้รับการคุ้มครองโดยองค์กรมรดกทางวัฒนธรรมของอิหร่าน นอกจากนี้ด้วยอายุและประวัติความเป็นมาของต้นไม้ใหญ่นี้ทำให้มันเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดในเมือง Abarkuh ไปเลย

รู้หรือไม่ ?

ในปี ค.ศ. 2008 กรมสิ่งแวดล้อมของเมือง Yazd ได้เสนอต่อยูเนสโกให้ยกย่อง Sarv-e Abarkuh เป็นมรดกโลก

อายุ : ประมาณ 4,000 – 5,000 ปี 
สายพันธุ์ : Mediterranean cypress (Cupressus sempervirens)
ที่ตั้ง : Abarkuh, Iran
สถานะ : ยังมีชีวิต

Llangernyw Yew’ เป็นต้นไม้โบราณสกุลสน ตั้งอยู่ในสุสานของโบสถ์ St. Digain ในหมู่บ้านทางตอนเหนือของเวลส์ มีอายุ 4,000 – 5,000 ปี



‘Llangernyw Yew’ เป็นต้นไม้โบราณสกุลสน ตั้งอยู่ในสุสานของโบสถ์ St. Digain ในหมู่บ้านทางตอนเหนือของเวลส์ มีอายุ 4,000 – 5,000 ปี ถูกรับรองโดย ‘David Bellamy’ นักพฤกษศาสตร์และนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมชาวอังกฤษ

ว่ากันว่าโบสถ์ Llangernyw เป็นสถานที่พิเศษในเทพนิยายของชาวเวลส์ เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับวิญญาณที่ชื่อว่า ‘Angelystor’ ที่มักมาปรากฏตัวในวันฮาโลวีน

รู้หรือไม่ ?

ในปี ค.ศ. 2002 สภาต้นไม้ ‘The Tree Council’ ได้ยกย่องให้ Llangernyw Yew เป็น 1 ใน 5 ต้นไม้ใหญ่ของอังกฤษ เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองพระราชพิธีกาญจนาภิเษกสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร

อายุ : ประมาณ 4,000 – 5,000 ปี 
สายพันธุ์ : Common Yew (Taxus baccata) 
ที่ตั้ง : Wales, UK
สถานะ : ยังมีชีวิต

Methuselah’ เป็นต้นสนขนาดใหญ่ มีอายุ 4,850 ปี ถูกค้นพบในปี ค.ศ 1957


Methuselah’ เป็นต้นสนขนาดใหญ่ มีอายุ 4,850 ปี ถูกค้นพบในปี ค.ศ 1957 โดยผู้เชี่ยวชาญชื่อ ‘Edmund Shulman’ และ ‘Tom Harlan’ นักวิจัยเฉพาะทางและนักสำรวจต้นไม้อายุยืนเจ้าเก่า โดยต้นไม้ต้นนี้ได้รับการตั้งชื่อตามรูปพระคัมภีร์เมธูเสลาห์อีกด้วย

สำหรับตำแหน่งที่แน่นอนของต้น Methuselah นั้นถูกเก็บเป็นความลับไม่เผยแพร่ต่อสาธารณชน เพื่อป้องกันการถูกรบกวนจากมนุษย์ รู้เพียงว่าตั้งอยู่ที่ไหนสักแห่งบนเทือกเขา White Mountains ทางตะวันออกของรัฐแคลิฟอร์เนียเท่านั้นเอง

รู้หรือไม่ ?

ในปี ค.ศ. 2003 ชาวนาชื่อ ‘Jared Milarc’ ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ตัดชิ้นส่วนของต้น Methuselah ออกมาทำการโคลนนิ่ง

อายุ : 4,850 ปี 
สายพันธุ์ : Great Bristlecone Pine (Pinus longaeva)  
ที่ตั้ง : Inyo County, California, USA 
สถานะ : ยังมีชีวิต

ก่อนที่จะตายในปี ค.ศ.1964 ‘Prometheus’ เคยเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเขา Wheeler Peak ในรัฐเนวาดา


ก่อนที่จะตายในปี ค.ศ.1964 ‘Prometheus’ เคยเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเขา Wheeler Peak ในรัฐเนวาดา ในครั้งนั้นนักภูมิศาสตร์ชื่อว่า ‘Donald R. Currey’ ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้นำตัวอย่างแกนกลางของต้นนี้ไปพิจารณาหาอายุของมัน ซึ่งเขาสงสัยว่ามีอายุมากกว่า 4,000 ปี ต่อมามีการกำหนดอายุที่แท้จริงของต้นไม้ นักวิจัยสามารถนับวงปีของต้นไม้ ทำให้พบว่ามันมีอายุประมาณ 4,860 และบางที่ประมาณการว่าต้นไม้นี้อาจมีอายุอย่างน้อย 4,900 ปี

รู้หรือไม่ ?
ตอนนี้ชิ้นส่วนของ Prometheus ถูกนำไปจัดแสดงที่อุทยานแห่งชาติเกรตเบซิน ซึ่งประชาชนสามารถเข้าชมได้

อายุ : 4,862 – 4,900 ปี 
สายพันธุ์ : Great Bristlecone Pine (Pinus longaeva) 
ที่ตั้ง : Wheeler Peak, Nevada, USA
สถานะ : ตายแล้ว

วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2564

‘Jurupa Oak’ มีลักษณะเป็นพุ่ม อยู่ในสกุลต้นโอ๊กปาล์มเมอร์ เป็นอาณาจักรต้นไม้อีกต้นหนึ่งที่มีชีวิตอยู่รอดมาได้กว่า 13,000 ปี


‘Jurupa Oak’ มีลักษณะเป็นพุ่ม อยู่ในสกุลต้นโอ๊กปาล์มเมอร์ เป็นอาณาจักรต้นไม้อีกต้นหนึ่งที่มีชีวิตอยู่รอดมาได้กว่า 13,000 ปี 

ถูกค้นพบครั้งแรกโดยนักพฤกษศาสตร์ ชื่อ Mitch Provance ในปี ค.ศ. 1990 ความพิเศษของ Jurupa Oak นี้คือ มันเป็นต้นโอ๊กเพียงกลุ่มเดียวในพื้นที่ เพราะโดยทั่วไปต้นไม้ชนิดนี้จะชอบอยู่ในพื้นที่ชุ่มชื้นและมีภูเขาเท่านั้น

รู้หรือไม่ ?
แม้ว่าต้น Jurupa Oak มีดอกไม้ซึ่งเป็นอวัยวะสืบพันธุ์ของพืช แต่มันไม่ได้มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศเลย เพราะมันอยู่ได้ด้วยการโคลนนิ่งตัวเองซึ่งเป็นเคล็ดลับที่ทำให้ต้นไม้นี้มีอายุยืนยาวนั้นเอง

อายุ : มากกว่า 13,000 ปี 
สายพันธุ์ : Palmer’s Oak 
ที่ตั้ง : Jurupa Mountains, California, USA 
สถานะ : ยังมีชีวิต

Old Tjikko’ เป็นต้นสนพันธุ์พื้นเมืองเก่าแก่ของยุโรปกลางเหนือและยุโรปตะวันออก มีอายุประมาณ 9,550 ปี


Old Tjikko’ เป็นต้นสนพันธุ์พื้นเมืองยุโรปกลางเหนือและยุโรปตะวันออก มีอายุประมาณ 9,550 ปี ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Fulufjället ประเทศสวีเดน ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ 2008 

โดยศาสตราจารย์ ‘Leif Kullman’ แห่ง Umeå University ได้นำชิ้นส่วนของต้นไม้ไปตรวจคาร์บอนเพื่อที่จะได้ทราบอายุก็พบว่า มันมีอายุมายาวนานกว่า 9,550 ปี 

ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกประกาศว่าหนึ่งในต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก ก่อนจะถูกต้น Jurupa Oak ที่ค้นพบในอีกหนึ่งปีต่อมาล้มแชมป์

รู้หรือไม่ ?
มีการสันนิษฐานว่าต้น Old Tjikko น่าจะถูกนำมาปลูกในพื้นที่โดยฝีมือมนุษย์ อีกทั้งอายุของมันบอกได้ว่าสภาพภูมิอากาศของประเทศสวีเดนน่าจะร้อนเร็วขึ้นกว่าที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้

อายุ : ประมาณ 9,550 ปี 
สายพันธุ์ : Norway Spruce (Picea abies)
ที่ตั้ง : Fulufjället National Park, Dalarna County, Sweden
สถานะ : ยังมีชีวิต

Great Basin Bristlecone Pine ‘Bristlecone Pine’ เป็นไม้สกุลสน เคยขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกมีอายุกว่า 5,060 ปี


Great Basin Bristlecone Pine
‘Bristlecone Pine’ เป็นไม้สกุลสน เคยขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเมื่อปี ค.ศ. 2013 เดิมทีแกนกลางของ Bristlecone Pine เคยถูก ‘Edmund Schulman’ นักวิจัยเฉพาะทางและนักสำรวจต้นไม้อายุยืน 

นำไปวิเคราะห์เพื่อหาอายุที่แท้จริง แต่การศึกษายังไม่สำเร็จเขาก็เสียชีวิตไปก่อน จนเมื่อปี ค.ศ. 2010 Tom Harlan ได้นำงานวิจัยของ Schulman มาศึกษาต่อ ก่อนจะพบว่าต้นไม้ต้นนี้มีอายุกว่า 5,060 ปี ในขณะนั้น

รู้หรือไม่ ?
เมื่อปี ค.ศ. 2017 Bristlecone Pine ไม่สามารถยืนยันอายุได้ เพราะตัวอย่างแกนกลางต้น Bristlecone Pine ของ Harlan ไม่ได้ถูกนำเข้าห้องปฏิบัติการ Tree-Ring ทำให้การอ้างสิทธิ์ทั้งหมดจึงถูกยกเลิก

อายุ : 5,071 ปี 
สายพันธุ์ : Great Bristlecone Pine (Pinus longaeva) 
ที่ตั้ง : Inyo County, California, USA 
สถานะ : ยังมีชีวิต

วันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2564

“ต้นคีไย” ในชิลี ความหวังใหม่สำหรับการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19

“ต้นคีไย” ในชิลี ความหวังใหม่สำหรับการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19

ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในประเทศชิลีซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตไวน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านป่าไม้กำลังดูแลสวนกล้าไม้ที่เปลือกไม้มีศักยภาพในการผลิตวัคซีน

ต้นคีไย (Quillay) หรือที่รู้จักกันในชื่อทางวิชาการว่า Quillaja saponaria เป็นพันธ์พืชป่าหายากที่เติบโตได้ตลอดปีและมีถิ่นกำเนิดอยู่ในชิลีที่ชนเผ่ามาปูเช (Mapuche) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองใช้กันมานานในการทำสบู่และยารักษาโรคต่างๆ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ต้นไม้เหล่านี้ยังถูกนำไปใช้เพื่อผลิตวัคซีนป้องกันโรคงูสวัดและวัคซีนมาลาเรียชนิดแรกของโลกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ตลอดจนใช้เป็นสารที่ทำให้เกิดฟองสำหรับผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และใช้ในกิจการเหมืองแร่อีกด้วย

ตอนนี้โมเลกุลซาโปนิน (saponin) สองตัวจากเปลือกของกิ่งไม้ซึ่งตอนมาจากต้นไม้เก่าแก่ในป่าของชิลีถูกใช้ในการผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทผู้ผลิตยา Novavax Inc สารเคมีดังกล่าวถูกใช้เป็นสารช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน

ในอีกสองปีข้างหน้าบริษัท Novavax ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐแมรี่แลนด์ มีแผนจะผลิตวัคซีนหลายพันล้านโดส โดยส่วนใหญ่จะผลิตให้ประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง ซึ่งจะทำให้ Novavax เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 รายใหญ่ที่สุดในโลก

เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับจำนวนต้นคีไยที่แข็งแรงที่เหลืออยู่ในชิลี ผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ในวงการอุตสาหกรรมจึงมีความคิดที่แตกต่างกันในเรื่องของต้นไม้เก่าแก่นี้ที่อาจจะหมดลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น แต่เกือบทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า อุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาสารสกัดจากต้นคีไยนี้ อาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้ต้นไม้ที่ปลูกในสวนป่าเพื่อการค้าหรือปลูกในห้องทดลองแทน

การวิเคราะห์ของรอยเตอร์เกี่ยวกับข้อมูลการส่งออกจากผู้ให้บริการข้อมูลการค้า ImportGenius แสดงว่าซัพพลายของต้นไม้ที่มีอายุมากนี้อยู่ใต้แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้น โดยการส่งออกผลิตภัณฑ์คีไยเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าตัวเป็นปีละ 3,600 ตันในช่วงทศวรรษก่อนการเกิดโรคระบาดใหญ่

Ricardo San Martin ผู้พัฒนากระบวนการตัดแต่งกิ่งและการสกัดที่นำไปสู่อุตสาหกรรมจากต้นคีไยในยุคใหม่กล่าวว่า ผู้ผลิตต้องดำเนินการหาผลิตภัณฑ์คีไยจากต้นไม้ที่อายุน้อยกว่าซึ่งปลูกเพื่อการค้าโดยไม่รอช้า

San Martin กล่าวว่าเขาได้ทำงานหนักในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ที่ห้องใต้ดินในบ้านพักริมทะเลของเขาที่เมือง Sea Ranch รัฐ California เพื่อปรับแต่งกระบวนการที่สามารถช่วยผลิตซาโปนินจากใบและกิ่งไม้เพื่อเพิ่มผลผลิตให้ได้มากที่สุด และเขาได้สนับสนุนโครงการเพื่อส่งโดรนขึ้นบินสำรวจต้นคีไยในพื้นที่ป่าซึ่งห่างไกลและยากต่อการเข้าถึงเพื่อประมาณจำนวนต้นคีไยที่ยังเหลืออยู่ในป่าของชิลีด้วย

บริษัท Novavax กล่าวในแถลงการณ์ถึงรอยเตอร์ว่า ทางบริษัทยังคงติดตามสถานการณ์ในชิลีด้วยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับบรรดาซัพพลายเออร์ แต่ในขณะนี้บริษัทยังมั่นใจในจำนวนต้นไม้ที่มีอยู่ และยังมั่นใจด้วยว่าจะจัดลำดับความสำคัญสำหรับวัคซีนเพื่อช่วยชีวิตนี้

Andres Gonzalez ผู้จัดการของบริษัทในชิลีบอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า ทางบริษัทเตรียมผลิตสารสกัดคีไยจากต้นไม้ที่มีอายุมากพอเพื่อผลิตวัคซีนได้ถึง 4,400 ล้านโดสในปีค.ศ. 2022 นี้ และด้วยซัพพลายเพิ่มเติมจากป่าของภาคเอกชน ก็คาดได้ว่าจะมีวัตถุดิบเพียงพอต่อความต้องการสำหรับการผลิตวัคซีนในช่วงที่เหลือของปีนี้และในส่วนหนึ่งของปีหน้า

แม้ว่าการผลิตวัคซีนต้องใช้สารสกัดจากต้นคีไยในปริมาณเพียงเล็กน้อย คือเพียงไม่ถึงหนึ่งมิลลิกรัมต่อวัคซีนหนึ่งโดสก็ตาม แต่อุตสาหกรรมยาก็ต้องแข่งขันกับอุตสาหกรรมด้านอื่นเช่นกัน เพราะมีการใช้สารสกัดจากต้นคีไยในอาหารสัตว์ ในยาฆ่าแมลงแบบชีวภาพ รวมทั้งเพื่อเป็นสารลดมลภาวะในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ด้วย

และถึงแม้ต้นคีไยสามารถเติบโตได้นอกประเทศชิลีก็ตาม แต่ชิลีเป็นเพียงประเทศเดียวที่มีการนำสารสกัดจากต้นคีไยซึ่งโตเต็มที่ในป่ามาใช้ประโยชน์ได้ในปริมาณมากๆ

วันอังคารที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2564

Dieffenbachia หรือสาวน้อยปะแป้ง


Dieffenbachia หรือสาวน้อยปะแป้ง ถือว่าเป็นต้นไม้ที่มีความสวยงาม ต้นใหญ่ ใบสวย เมื่อนำมาแต่งบ้าน ก็ทำให้บ้านดูดี 

แต่ต้นไม้ชนิดนี้หากนำมาไว้ภายในบ้านก็ต้องระวังเช่นกัน เพราะเป็นอันตรายต่อเด็ก และสัตว์เลี้ยง 

ทั้งใบ ลำต้น และรากของมันมีพิษตามธรรมชาติเซลล์ของต้นไม้นี้มี Calcium oxalate และ Asparagine หากนำใบของมันมาเคี้ยวจะก่อให้เกิดอาการชา เกิดความระคายเคืองในปาก น้ำลายไหล บวม 

ในกรณีที่อาการหนักทำให้เกิดอาการบวมและหายใจลำบาก

Philodendron หรือ ฟิโลเดนดรอน นับว่าเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นไม้ที่ปลูกง่าย


Philodendron หรือ ฟิโลเดนดรอน นับว่าเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นไม้ที่ปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลมากนัก แต่ต้นไม้ชนิดนี้มี Calcium oxalate เรียกว่า Raphite ซึ่งมีองค์ประกอบที่เป็นพิษ แม้ว่าจะมีผลเพียงเล็กน้อยต่อมนุษย์ 

แต่ก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน อย่างในกรณีของคนที่แพ้ง่าย แค่ไปสัมผัสเนื้อเยื่อก็อาจจะทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคือง มีรอยไหม้ เกิดอาการบวมแดงที่ปากและลิ้นได้ Calcium oxalate นี้ เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขและแมว หากไปกัดแทะก็จะมีปัญหากับระบบการย่อยอาหาร 

อาจมีน้ำลายไหล ลิ้นบวม อาเจียน หายใจและกลืนลำบากด้วย หากคุณมีต้นไม้ชนิดนี้ในบ้าน และสังเกตเห็นว่าสัตว์เลี้ยงเคยมีอาการดังกล่าว ก็ควรจะนำต้นไม้ออกไปไว้ที่อื่น เช่น ไว้ในที่สูง ที่เด็ก และสัตว์เลี้ยงขึ้นไปไม่ได้

ต้นไม้อะไรเหมือนนกฮูก พบเฉพาะดอยหัวหมด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง


พิศวงไทยทอง ต้นไม้อะไรเหมือนนกฮูก พบเฉพาะดอยหัวหมด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง

วันที่ 13 ตุลาคม เฟชบุ๊ก ประชาสัมพันธ์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เผยแพร่บทความจาก สำนักวิจัยการอนุรักษ์ป่าไม้และพันธุ์พืช เรื่อง “พิศวงไทยทอง” พรรณไม้ชนิดใหม่ของโลก โดยระบุว่า ไม้ชนิดนี้ ถูกพบครั้งแรกโดย ดร.กนกอร สีม่วง นักวิจัยมหาวิทยาลัยพะเยา ซึ่งร่วมกับ นายสุชาติ จันทร์หอมหวล ช่างภาพอิสระ ต่อมารองศาสตราจารย์ ดร.สหัช จันทนาอรพินท์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และดร. สมราน สุดดี นักวิจัยกลุ่มงานพฤกษศาสตร์ป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกันตีพิมพ์เป็นพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ของโลก ลงในวารสาร Phytotaxa เล่มที่ 333(2) หน้า 287

สำหรับคำระบุชนิด “thaithonggiana” ตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่นัก รองศาสตราจารย์ ดร.อบฉันท์ ไทยทอง อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาพฤกษศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งปูชนียบุคคลของวงการพรรณไม้ของไทยตัวอย่างพรรณไม้ต้นแบบ เก็บจากดอยหัวหมด จังหวัดตาก เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2557

ทั้งนี้ ดร.กนกอร ศรีม่วง นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยพะเยา ผู้ค้นพบ ได้ให้ข้อมูลไว้เมื่อตอนค้นพบว่า ตอนแรกยังไม่ทราบว่าเป็นพืชชนิดใด จึงเก็บตัวอย่างและบันทึกภาพ ส่งให้ รศ.ดร.สหัช จันทนาอรพินท์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ตรวจสอบ จนกระทั่งทราบว่าเป็นพืชชนิดใหม่ของไทย “พิศวงตานกฮูก” ที่มีชื่อสามัญเรียกว่า “พิศวงไทยทอง” และชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Thismia thaithongiana ซึ่งพิศวงไทยทองนี้เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กเท่าหัวไม้ขีด ที่จะออกดอกในช่วงปลายฝนเท่านั้น

พืชชนิดนี้เป็นพืชที่มีความสัมพันธ์กับเชื้อราในดิน และมีระบบนิเวศหรือการดำรงชีวิตอย่างสลับซับซ้อนกับพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ หรือความสมดุลของป่าแห่งนี้ ซึ่งในอนาคตจะได้มีศึกษานิเวศวิทยาของพืชชนิดนี้ว่ามีความเกี่ยวข้องหรือมีความสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆ อย่างไร รวมไปถึงพิศวงตัวอื่นๆ ในสกุลนี้ด้วย ซึ่งความสัมพันธ์กับพืชชนิดอื่นอาจจะซ่อนอยู่ในพืชชนิดนี้ ที่ยังคงทำให้เราแปลกใจ ประหลาดใจ และเป็นปริศนาสมดังชื่อประจำสกุล “พิศวง”

สำหรับพิศวงไทยทอง หรือพิศวงตานกฮูก เป็นพันธุ์ไม้ถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะที่ดอยหัวหมด ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก ขึ้นในป่าเต็งรังบนเขาหินปูนมีสถานภาพเป็นพันธุ์ไม้ที่ใกล้สูญพันธุ์ เป็นพืชล้มลุกอาศัยรา ลำต้นตั้งตรง สูงน้อยกว่า 2 มม.เรียกได้ว่ามีขนาดเล็กเท่าหัวไม้ขีดเพียงเท่านั้น

วันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ข่าลิง สมุนไพร สรรพคุณทางยา มากมาย


ข่าลิงเป็นไม้ล้มลุก มีเหง้าใต้ดิน เนื้อในสีขาว ใบเดี่ยวเรียงสลับ รูปหอกแกมขอบขนาน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ มีขนประปรายที่ขอบใบและ ริมขอบ เส้นกลางใบด้านล่างสองข้างเป็นแนวยาว กาบใบเรียงซ้อนกันแน่น 

ดอกขาวแกมเหลืองแดง กลีบดอกโคนเชื่อมเป็นหลอดสั้นๆปลายแยกเป็น 3 กลีบ เกสรเพศผู้ ส่วนที่เป็นกลีบอยู่บนกลีบดอก เหนือหลอดกลีบดอกนูนสีแดง โคนกลีบแยก 2 หยัก รูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก สีแดง ก้านเกสรโค้งเล็กน้อย มีขนประปราย อับเรณูสีครีม เกสรเพศเมีย ก้านเกสรยาว สีขาว ผล รูปกลม ผลแก่สีส้มถึงแดง ปลายผลมักมีกลีบแห้งติดอยู่ 

ทางการแพทย์แผนไทยจะใช้เหง้าและราก แก้ประดง รักษากามโรค เกลื้อน พิษฝี ปวดท้อง ผายลม ขับลมในลำไส้ เหง้าสดเมื่อนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยโดยการต้มกลั่น จะได้น้ำมันหอมระเหยร้อยละ 0.17

วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

เห็ดอเมทิสต์ หรือ ราเมือกอเมทิสต์เห็ดแปลกๆที่มีสีสันแวววาวราวกากเพชร



“เห็ดอเมทิสต์” หรือ “ราเมือกอเมทิสต์”  (Amethyst mushroom, Amethyst slime mold) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Elaeomyxa Cerifera แม้ว่าจะมีชื่อเรียกว่าเห็ดก็ตาม แต่มันถูกจัดเป็นราเมือก (Slime mold) ชนิดหนึ่ง ซึ่งสามารถพบได้เฉพาะทางตอนเหนือของรัฐแทสมาเนีย (Tasmania) เท่านั้น

มันมีลักษณะภายนอกที่ดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยบนยอดที่มีลักษณะเป็นพุ่มนั้น เป็นกระเปาะสปอร์ที่มีแสงระยิบระยับ ราวกับกากเพชร หรือดวงดาวในท้องฟ้ายามค่ำคืนเลยทีเดียว โดยรูปร่างของมันเมื่อรวมเข้ากับกระเปาะด้านบนจึงทำให้มีลักษณะคล้ายเห็ดนั่นเอง

โดยเมื่อแตกออก และปล่อยสปอร์ที่มีสีสวยงามที่ประกอบไปด้วย สีม่วง สีเงิน และสีเขียว ซึ่งลักษณะที่ดูเหมือนกับแสงระยิบระยับนี้ ก็คือราเมือกที่เกิดหลังจากการปล่อยสปอร์นั่นเอง

มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสีสัน และรูปแบบอันสวยงามแตกต่างกันไปตามแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งเรามักจะไม่เห็นมันได้ง่าย ๆ หากไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสม เนื่องจากมันมีขนาดเล็กมาก ๆ
“ซาร่า ลอยด์” (Sarah Lloyd) นักวิจัย ผู้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการสำรวจ และเก็บตัวอย่างราเมือกสุดแวววาวนี้ ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในราเมือกที่เธอเก็บมาด้วยเช่นกัน ซึ่งมันเป็นหนึ่งใน 1,800 ตัวอย่างจาก 120 สายพันธุ์ที่เธอเก็บและศึกษาอีกด้วย

วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ผักกระเฉด ประโยชน์และสรรพคุณของผักกระเฉด


ผักกระเฉด ประโยชน์และสรรพคุณของผักกระเฉด

ผักกระเฉด (Water mimosa) เป็นพืชสมุนไพรจำพวกผัก ที่มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่างๆ เช่น ผักรู้นอน เป็นต้น นับเป็นพืชผักที่คนไทยเราต่างรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แถมยังเป็นเมนูโปรดของใครอีกหลายคนเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นผักที่มีรสชาติกรุบกรอบ หวาน และอร่อย จึงทำให้หลายๆ คนเลือกที่จะนำมาประกอบอาหารรับประทานกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว โดยเป็นพืชของประเทศไทยเรา

ลักษณะทั่วไปของผักกระเฉด
สำหรับต้นผักกระเฉดนั้นจัดเป็นไม้เลื้อยเช่นเดียวกันกับผักบุ้ง สามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในน้ำและบนบก หากอยู่บนบกจะเป็นพืชคลุมดิน แต่หากอยู่ในน้ำจะเป็นทุ่นช่วยในการพยุงเถาให้ลอยน้ำ เนื่องจากในผักกระเฉดนั้นมีส่วนที่เรียกว่านมสีขาวๆ อยู่ตามข้อของลำต้น และมีรากขึ้นอยู่บริเวณข้อหรือที่เรียกกันว่าหนวด ส่วนใบนั้นจะมีสีเขียวขอบม่วงออกตามข้อ มีลักษณะเป็นใบประกอบคล้ายขนนก ซึ่งมองดูคล้ายกับใบของต้นมะขามเป็นอย่างมากจนแทบแยกไม่ออกเลยทีเดียว ส่วนรากของต้นผักกระเฉดจะแตกออกเป็นกระจุกอยู่ตามข้อ, ดอก และผล โดยดอกนั้นจะมีสีเหลืองออกเป็นช่อๆ กลมๆ ออกอยู่ตามซอกใบ และผลจะออกเป็นฝักมีลักษณะโค้งงอเล็กน้อย โดยภายในจะมีเมล็ดอยู่ประมาณ 10 เมล็ด ตลอดจนบริเวณข้อจะมีนมผักกระเฉดเป็นฟองสีขาวหุ้มลำต้นอยู่ คอยทำหน้าที่พยุงตัวในน้ำ

ผักกระเฉด 
ต้น ดอก และใบของผักกระเฉด

ประโยชน์และสรรพคุณของผักกระเฉด
นม – ช่วยสำหรับบำรุงร่างกายให้แข็งแรง รวมทั้งช่วยถอนพิษตับอักเสบ และแก้อาการไข้ตัวร้อน ให้รสจืดเย็น
ใบ – ช่วยในการแก้ไข้พิษ หรือดับพิษ และช่วยดับพิษปวดแสบปวดร้อน ให้รสจืดเย็น

ผักกระเฉด 
ผักกระเฉด สามารถนำมาประกอบอาหารไทยได้หลากหลายเมนู

และเนื่องจากต้นผักกระเฉดนี้จะมีความพิเศษอยู่ตรงใบ คือเมื่อเวลาโดนการสัมผัสใบจะหุบเอง รวมทั้งในเวลากลางคืนด้วย และนี่จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งของต้นผักกระเฉด นั่นก็คือ ผักรู้นอน นั่นเอง

วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2564

Psychotria elata ต้นดอกไม้ที่มีรูปร่างคล้ายริมฝีปากมนุษย์


Psychotria elata  ต้นดอกไม้ที่คล้ายริมฝีปากมนุษย์
 
ปากแดงๆจะไว้ได้ Hooker's Lips หรือ Girlfriend kiss มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า (Psychotria elata) 

เป็นพืชเขตร้อนที่มีถิ่นกำเนิดในป่าฝนในคอสตาริกา เอกวาดอร์ และประเทศอื่นๆ ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้

ดอกไม้นี้จะบานช่วงเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม แต่ก่อนที่ดอกจะบาน ใบรอบดอกของมันจะมีสีแดงสด มีรูปร่างคล้ายริมฝีปากอวบอิ่ม 

ผู้คนในอเมริกากลางจึงมักจะมอบต้นไม้ให้กับครอบครัวและเพื่อนฝูงเพื่อแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ 

นอกจากนี้เปลือกและใบของมันยังถูกนำไปใช้เป็นยารักษาโรคปวดหู ไอ และผื่นระคายเคืองบนผิวหนังได้อีกด้วย

พญาสัตบรรณ หรือ สัตบรรณ หรือ ตีนเป็ด คุณคิดว่าดอกมันหอมหรือเหม็น


พญาสัตบรรณ หรือ สัตบรรณ หรือ ตีนเป็ด (ชื่อวิทยาศาสตร์: Alstonia scholaris) เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่มีความสูงประมาณ 12-20 เมตร อยู่ในวงศ์ Apocynaceae มีถิ่นดั้งเดิมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพบได้ทุกภาคในประเทศไทย และเป็นต้นไม้ประจำจังหวัดสมุทรสาคร
พญาสัตบรรณ !!  หอม หรือ เหม็น ?
ต้นไม้ต้นเดียวกัน แต่บางคนกลับคิดไม่เหมือนกัน

ช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ เชื่อว่าเพื่อนๆ  หลายๆ คน ต้องคุ้นเคยกับกลิ่นที่มีเอกลักษณ์ โชยมาให้ได้กลิ่นกันแน่

เพราะนั่นก็คือกลิ่นของ "ต้นตีนเป็ด" 
ที่สำหรับบางคนบอกว่าหอม แต่บางคนก็บอกว่าเหม็นสุดๆ ซะงั้น.. ทำไมไม่เหมือนกันล่ะ?

- กลิ่นต้นตีนเป็ด มาจากไหน?
ที่จริงนั้นกลิ่นจะมาจาก "ช่อดอก" 
ที่จะออกดอกปีละครั้งในช่วงปลายฝนต้นหนาวนั่นเอง

แล้วดอกต้นตีนเป็ด จะมีส่วนประกอบอยู่จำนวนมากที่เป็นน้ำมันหอมระเหย

ซึ่งในนั้นมีสิ่งที่เรียกว่าเป็น Linalool อยู่ถึงเกือบ 40% และทำให้ส่งกลิ่นแบบเข้มข้นสูงออกมา จนโชยไปทั่วบริเวณ ยิ่งอยู่เป็นดง ยิ่งกลิ่นแรงมากกกกกกกกกก

- แล้วทำไมบางคนว่าหอม บางคนว่าเหม็น?นั่นก็เป็นเพราะเจ้าสารในดอกเนี่ย มันส่งผลต่อคนไม่เหมือนกัน ถ้าคนที่แพ้สารดังกล่าว กลิ่นมันจะไปกระตุ้นเราเลยล่ะ....

มันจะทำให้สมองเรารู้สึกรับกลิ่นเข้าไปแล้วทำงานหนักขึ้น ปวดหัว ไปจนอยากจะอาเจียน น้ำมูกน้ำตาไหลกันเลย สำหรับคนกลุ่มนี้จึงเหม็นสุดๆ
ส่วนคนที่ชอบ เพราะสมองไม่ได้รับผลกระทบ ก็จะบอกว่ากลิ่นมันหอมแบบอ่อนๆ เพราะมันเป็นน้ำมันหอมระเหยนั่นเอง
เพราะฉะนั้นกลิ่นนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนแล้ว

วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2564

พบ เห็ดมือซอมบี้ หายากและใกล้สูญพันธุ์ ในออสเตรเลีย พบเห็นได้เพียง 7 แห่งบนโลกเท่านั้น


พบ 'เห็ดมือซอมบี้' หายากและใกล้สูญพันธุ์ ในออสเตรเลีย พบเห็นได้เพียง 7 แห่งบนโลกเท่านั้น

กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีมีการค้นพบ เห็ดรา หรือ fungus หายาก และใกล้สูญพันธุ์ในอุทยานแห่งชาติของออสเตรเลีย

รายงานระบุว่า Hypocreopsis amplectens fungus หรือ 'Tea-tree Fingers' หรือ 'zombie finger' มักพบในพื้นที่ของออสเตรเลีย ซึ่งใกล้จะสูญพันธุ์เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่า และการบุกรุกของมนุษย์

นักวิจัย กล่าวว่า zombie finger หรือ เห็ดมือซอมบี้ นั้นค่อนข้างหายากและใกล้สูญพันธุ์ ถูกค้นพบโดยกลุ่มนักธรรมชาติวิทยา 16 คน ในอุทยานแห่งชาติ Royal Botanic Gardens Victoria บนเกาะฝรั่งเศส รัฐวิกตอเรีย

โดยเห็ดราประหลาดชนิดนี้จะมีรูปร่างคล้ายกับมือที่น่าเกลียดน่ากลัว มีสีน้ำตาลอมชมพู และเนื้อสัมผัสที่แปลก มันอาศัยอยู่ใกล้กับพืช หรือกิ่งไม้ที่เปื่อยเน่า และกินเชื้อราตัวอื่นที่เน่าเปื่อย
ทั้งนี้ IUCN ระบุเพิ่มเติมว่า เห็ดมือซอมบี้ พบเห็นได้เพียง 7 แห่งบนโลกเท่านั้น ซึ่งบางแห่งไม่สามารถพบได้อีกต่อไป

วันพฤหัสบดีที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2564

5 สายพันธุ์ Alocasia ไม้ใบมาแรง ทั้งสวย และราคาแรง


5 สายพันธุ์  "Alocasia" ไม้ใบมาแรง ทั้งสวย และราคาแรง ที่เหล่านักสะสมอยากมีการจัดสวน หรือหาต้นไม้สวยๆ มาปลูกเพิ่มสีสันให้บ้านกันดีกว่า
 
5 สายพันธุ์ "Alocasia" ไม้มาแรง 
ที่ผ่านมา มีไม้ใบในตลาด ที่เป็นที่ฮือฮา และเป็นกระแสจนราคาทะลุเพดาน ไปจนถึงหลักแสน หลักล้าน แต่ถ้าจะพูดถึงตลาดไม้ใบ ที่ยืนหนึ่งและไม่เคยตกจากกระแส ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปทางไหน ไม้ใบชนิดนี้ก็ไม่เคยตกอันดับ ต้องยกให้เจ้า Alocasia ไม้โปรดของใครหลายคน
Alocasia เป็นไม้ใบเขตร้อน ที่ปลูกง่าย โตไว ที่สำคัญความงามของ เจ้าAlocasiaนี้ อยู่ใบที่สวยงามคล้ายรูปหัวใจดวงใหญ่ และมีกว่า 70 สายพันธุ์ จริงๆแล้วก็คือตระกูลบอนนั่นแหละค่ะ   แต่ที่นิยมนำมาปลูกส่วนใหญ่ จะมีประมาณ 40 สายพันธุ์ เยอะใช่มั้ยค่ะ  ถ้างั้นจะมาแนะนำ 5สายพันธุ์ สุดฮิต ที่กำลังมาแรงในตลาดตอนนี้กัน
Alocasia serendipity variegated หรือภาษาไทยที่เรียกกันคือ บอนดำด่างชมพู  ที่กำลังมาแรงตอนนี้เพราะนอกจากใบจะสวยแล้ว สีสันของเจ้าต้นนี้ก็น่ารัก ตะมุตะมิที่เดียว ไม่ใช่แค่ด่าง แต่ยังเป็นด่างชมพู เลยทำให้ราคาของเจ้าต้นนี้แรงไม่เบาเลยทีเดียว เรียกได้ว่า 6 หลักทีเดียว
Alocasai black stem หรือ บอนดำด่างขาว หรือเจ้าบอนราหู แต่ไม่ธรรมดาตรงนี้ ก้านจะดำแล้ว แต่ใบยังด่าง ทำให้สวยงาม สะดุดตา เป็นไม้ใบที่ดึงดูสายตาได้ดีทีเดียว ความด่างขาวกับก้านดำ และความหายากนี้ ทำให้ค่าตัวต้นนี้พุ่งไป 6หลักเช่นกัน
5 สายพันธุ์ "Alocasia" ไม้มาแรง ช่วง"ล็อกดาวน์ "
Alocasia Okinawa Silver หรือเจ้าบอนกระดาด่างโอกินาว่า ที่ใคร ๆ ต่อใครต่างถามหา ใบของเจ้าโอกินาว่า จะอ้อนช่อย งดงามกว่าบอนกระดาษทั่วไป เจ้านี่คือหนึ่งในไม้ใบสายAlocasia  ที่นักสะสมอยากมี ค่าตัวก็สูงตามความต้องการของตลาดนั่นเอง
Alocasia Frydek ยืนหนึ่งเรื่องความนิยม ที่ไม่เคยตกกระแส ไม่ว่าจะล็อกดาวน์กี่ครั้ง Frygek ไม่เคยตกขบวนความฮิต อาจจะดูแลยากเมื่อเทียบกับ Alocasia อื่น แต่คุ้มค่ากับความเสี่ยง เพราะความงามนี้ไม่เป็นรองใคร เพราะเนื้อใบของFrydek มีความเป็นกำมะหยี่ ก้านใบสีขาว ตัดกับความเขียวของใบ ยิ่งถ้าด่างด้วย คงไม่ต้องถามเรื่องราคากันเลย
5 สายพันธุ์ "Alocasia" ไม้มาแรง ช่วง"ล็อกดาวน์ "
และสุดท้าย Alocasia Gageana Albo Variegated หรือ หูช้างด่างขาว" ใบของหูช้างสวยงามมาก ด้วยขนาดใบ และรูปแบบใบที่มีเอกลักษณ์ ความด่างและหายาก ดันราคาเจ้าช้างน้อยสุดเพดานเหมือนกัน
 
5 สายพันธุ์ ที่เหล่านักสะสม ต่างต้องการมีใาประดับสวน ทั้งสวย และราคาสูงมากทีเดียว แต่สำหรับมือใหม่อยากเลี้ยง Alocasia ลองหาพันธุ์ไทย อย่างเจ้าแก้วสาระพัดนึก หรือบอนอื่น ๆ มาเลี้ยงเล่น ๆ ดูก่อนก็ได้นะ เลี้ยงเก่งเมื่อไหร่ค่อย มาจับจองเจ้า ตัวTopเหล่านี้ ไปเชยชมกัน

วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2564

ต้น Tortilisต้นไม้แปลกๆน่าสนใจ พืชใบหงิกงอ


ต้น Trachyandra Tortilis คือพืชอวบน้ำมี่มีอายุขัยยืนยาว 

เป็นสายพันธุ์พืชพื้นเมืองในแถบแห้งแล้งของแอฟริกาใต้ ความโดดเด่นของมันอยู่ที่ใบสีเขียวหยิกหยอยความยาวประมาณ 10 ซม. สูงได้เต็มที่ประมาณ 25 ซม. 

อ่อนไหวต่อการให้น้ำมากเกินไป และชื่นชอบดินที่มีการถ่ายเทน้ำได้ดีอย่างดินประเภทดินทราย หรืออาจจะเป็นหินกรวดก็ได้ 

พืชชนิดนี้เติบโตได้ดีในที่ร่ม ที่มีแสงสว่างเข้าถึงได้ ปัจจุบันนี้ ได้รับความนิยมในการนำมาเลี้ยงงเป็นพืชประดับบ้านอยู่มากเช่นกันครับ 

วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2564

คุณประโยชน์ของ กล้วย


กล้วยน้ำว้า

        กล้วยน้ำว้า เป็นผลไม้ไทยๆ ที่มีมาแต่โบราณแล้ว คนไทยทุกคนเกิดมาก็ต้องรู้จักกล้วยน้ำว้าเป็นอย่างดี เพราะปลูกง่าย โตเร็ว ออกดอก และให้ผลผลิตที่เร็วพอๆ กับการแตกหน่อใหม่เพื่อใช้ในการขยายพันธุ์ต่อไป

        กล้วย เป็นไม้ผลที่คนไทยรู้จักกันมานาน เนื่องจากกล้วยมีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้   ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในภูมิภาคดังกล่าว จากการศึกษาพบว่า กล้วยมีวิวัฒนาการถึง ๕๐ ล้านปีมาแล้ว ดังนั้นจึงเป็นไม้ผลที่มนุษย์รู้จักบริโภคเป็นอาหารกันอย่างแพร่หลาย เชื่อกันว่า กล้วยเป็นไม้ผลชนิดแรก ที่มีการปลูกเลี้ยงไว้ตามบ้าน และได้แพร่พันธุ์จากเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังดินแดนอื่นๆ ในระยะเวลาต่อมา

        กล้วย มีการปลูกกันมากในเอเชียใต้ ปัจจุบัน ประเทศอินเดียเป็นประเทศที่มีการปลูกกล้วยมากที่สุดในโลก และมีพันธุ์กล้วยมากมายอีกด้วย เหมาะสมกับที่มีการกล่าวกันไว้ในหนังสือของชาวอาหรับว่า "กล้วยเป็นผลไม้ของชาวอินเดีย" 

        ต่อมา ได้มีหมอของจักรพรรดิโรมันแห่งกรุงโรมชื่อว่า แอนโตนิอุส มูซา (Antonius Musa) ได้นำหน่อกล้วยจากอินเดีย ไปปลูกทางตอนเหนือของอียิปต์ เมื่อประมาณ ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว หลังจากนั้น มีการแพร่ขยายพันธุ์กล้วยไปในดินแดนของแอฟริกา ที่ชาวอาหรับเข้าไปค้าขาย และพำนักอาศัย จนกระทั่งเมื่อประมาณ ค.ศ. ๙๖๕ ได้มีการกล่าวถึงกล้วยว่า ใช้ในการประกอบอาหารชนิดหนึ่งของชาวอาหรับ ซึ่งอร่อย และเป็นที่เลื่องลือมาก ชื่อว่า กาลาอิฟ (Kalaif ) เป็นอาหารที่ปรุงด้วยกล้วย เมล็ดอัลมอนด์ น้ำผึ้ง ผสมกับน้ำมันนัต (Nut oil) ซึ่งสกัดจากผลไม้เปลือกแข็งชนิดหนึ่ง นอกจากใช้ประกอบอาหารแล้ว ชาวอาหรับยังใช้กล้วยทำยาอีกด้วย ชาวอาหรับเรียกกล้วยว่า "มูซา" ตามชื่อของหมอ ที่เป็นผู้นำกล้วยเข้ามาในอียิปต์เป็นครั้งแรก

        ในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ ๑๕ ชาวโปรตุเกสได้เดินเรือไปค้าขายบริเวณชายฝั่งตะวันตกของทวีปแอฟริกา และได้นำกล้วยไปแพร่พันธุ์ที่หมู่เกาะคะแนรี ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของทวีป หลังจากนั้น ชาวสเปนจึงได้นำกล้วยจากหมู่เกาะคะแนรีเข้าไปปลูกในหมู่เกาะอินดีสตะวันตกในอเมริกากลาง โดยเริ่มปลูก ที่อาณานิคมซันโตโดมิงโก บนเกาะฮิสปันโยลาเป็นแห่งแรก แล้วขยายไปปลูกที่เกาะอื่นในเวลาต่อมา ส่งผลให้ดินแดนในอเมริกากลางมีการปลูกกล้วยเป็นพืชเศรษฐกิจกันอย่างแพร่หลาย และนับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๑๙ เป็นต้นมา ได้กลายเป็นแหล่งปลูกกล้วยส่งเป็นสินค้าออกมากที่สุดของโลก โดยปลูกมากในประเทศคอสตาริกา และประเทศฮอนดูรัส

        ในบรรดากล้วยในบ้านเรา กว่า 20 ชนิด กล้วยน้ำว้า ถือว่าเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดชนิดหนึ่ง เพราะเนื่องจากในผลกล้วยจะมีวิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยในการเร่งเผาผลาญ น้ำตาลและไขมัน ช่วยฟื้นฟูร่างกายจากการเหนื่อยล้า อีกทั้งยังมีโพแทสเซียมช่วยในการขับโซเดียม อันเป็นหนึ่งในตัวการที่จะทำให้ความดันเลือดสูงออกทางปัสสาวะ และส่งผลให้ลดการบวมของร่างกายได้ประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการ ที่ได้จากกล้วยน้ำว้า ไม่ว่าจะผลดิบ ห่าม หรือสุก กล้วยก็สามารถนำมาประกอบอาหาร ได้หลายรูปแบบ และรสชาติความอร่อยก็ไม่ซ้ำแบบกัน

กล้วยน้ำว้าสุกงอม นำมาครูด หรือขูดเบาๆ สามารถใช้เป็นอาหารสำหรับเด็กทารกเนื่องจากย่อยง่าย ช่วยระบายท้อง

กล้วยน้ำว้าดิบและห่าม นำมาใช้ทำแกงคั่ว แกงเผ็ด ทำกล้วยฉาบ ปิ้ง นึ่ง ทอด อบ กวน และเชื่อม

กล้วยน้ำว้าสุก นำมาทำเป็นของหวาน เช่น กล้วยบวชชี กล้วยแขก กล้วยตาก ขนมกล้วย

        หัวปลี ยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของแกงเลียง เป็นอาหารบำรุงน้ำนมสำหรับสตรีหลังคลอด หรือใส่ต้มข่า ต้มยำ ยำหัวปลี ลวกหรือเผาจิ้มน้ำพริก ใช้เป็นเครื่องเคียง ผัดไทย ผัดหมี่ เต้าเจี้ยวหลน กะปิหลน ขนมจีนน้ำพริก ก็ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยมากยิ่งขึ้นได้

        หลายคนอาจมองจะมองว่าเป็นผลไม้ที่ไม่น่าจะให้พลังงานได้เยอะ แต่เชื่อหรือไม่ว่า กล้วยน้ำว้าเป็นแหล่งพลังงานสำรองชั้นดี เพราะใน 1 ผล สามารถให้พลังงานถึง 100 แคลอรี ซึ่งประกอบด้วยน้ำตาลธรรมชาติอยู่ 3 ชนิด คือ ซูโครส ฟรุกโทส และกลูโครส รวมไปถึงเส้นใยและกากอาหาร

        กล้วยน้ำว้า มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตแล้ว ช่วยป้องกันโรคความดัน และสารอาหารจำพวกโปรตีนที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นสำหรับมนุษย์อยู่หลายชนิด

หัวปลี 

-ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และบำรุงและขับน้ำนมสำหรับมารดาหลังคลอดบุตร

ผลสุก

-เป็นยาระบาย สำหรับผู้ที่อุจจาระแข็ง หรือเป็นริดสีดวงทวารขั้นแรกจนกระทั่งถ่ายเป็นเลือด 

เปลือกกล้วย

-บรรเทาอาการคันอันเนื่องมาจากแมลงกัดต่อย และผื่นแดงจากอาการคัน รักษาโรคหูดบนผิวหนัง ช่วยฆ่าเชื้อ ที่เกิดจากบาดแผล

ยางกล้วย

-ใช้ในการห้ามเลือดได้

ราก

-แก้ขัดเบา

ก้านใบตอง

-ช่วยลดอาการบวมของฝี (ก่อนใช้ต้องตำให้แหลกๆ

ใบอ่อน

-นำไปอังไฟให้นิ่ม ใช้ประคบแก้อาหารเคล็ดขัดยอกได้

ใบตอง

-นำมาใช้ทำกระทง ห่อขนม ห่ออาหาร ทำบายศรี บวงสรวงในงานต่างๆ
 
คุณค่าทางโภชนาการของกล้วยน้ำว้ากล้วยน้ำว้า 100 กรัม ให้คุณค่าทางโภชนาการดังนี้

-พลังงาน       122 กิโลแคลอรี

-โปรตีน         1.2 กรัม

-ไนอาซิน       0.6  มิลลิกรัม

-วิตามินซี       14.0  มิลลิกรัม

-คาร์โบไฮเดรต 26.1 กรัม

-แคลเซียม       12.0 มิลลิกรัม

-ไขมัน             0.3 กรัม

-ฟอสฟอรัส       32.0 มิลลิกรัม

-วิตามินเอ         375 หน่วยสากล

-เหล็ก             0.8 มิลลิกรัม

-วิตามินบี 1      0.03 มิลลิกรัม

-วิตามินบี2       0.04 มิลลิกรัม

-น้ำ                 7.6 กรัม

ประโยชน์ของกล้วยน้ำว้า
แก้อาการนอนไม่หลับ
-มีส่วนช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงที่อยู่ในช่วงมีประจำเดือน
-รักษาโรคซึมเศร้า และช่วยลดความเครียดได้ เนื่องจากสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน ทริปโตเฟน ที่อยู่ในกล้วยมีส่วนช่วยในการผลิตสารเซโรโทนิน หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อฮอร์โมนแห่งความสุข จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อรับประทานแล้วจึงทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดีขึ้นได้

บรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
-หากกำลังเผชิญปัญหาเกี่ยวกับการขับถ่าย ถ่ายเป็นเลือดหรือเป็นโรคริดสีดวงทวาร กล้วยน้ำว้าช่วยได้ เพราะมีกากใยจำนวนมาก ทำให้อุจจาระนุ่ม จึงมีส่วนช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-มีฤทธิ์ในการป้องกันการเกิดมะเร็งในลำไส้ด้วย เป็นยาระบายช่วยแก้ท้องผูก หรือระบบขับถ่ายไม่ปกติ เนื่องมาจากสารเพคติน จะเป็นตัวเพิ่มใยอาหารให้กับลำไส้ เมื่อลำไส้มีกากอาหารมาก จะไปดันผนังลำไส้ ทำให้ผนังลำไส้เกิดการบีบตัว จึงทำให้รู้สึกอยากถ่าย

รักษาโรคโลหิตจาง
-กล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยธาตุเหล็กสูง จึงช่วยในการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด ผู้ที่มีปัญหาโลหิตจางจึงสามารถรับประทานเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้

บรรเทาโรคกระเพาะอาหาร
-กล้วยน้ำว้าดิบมีฤทธิ์ต้านการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ โดยจะออกฤทธิ์สมานแผลและช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับเนื้อเยื่อเมือกในกระเพาะ

-ลดอาการเสียดท้อง รวมถึงช่วยลดกรดในกระเพาะอาหารด้วย ผู้ที่เป็นโรคกระเพาะหรือกระเพาะอักเสบ ควรรับประทานเป็นประจำทุกวัน เพื่อช่วยรักษาแผลลำไส้ชนิดเรื้อรัง เพราะกล้วยน้ำว้านั้นมี มีเซโรโทนิน ซึ่งช่วยให้กระเพาะหลั่งเมือกมาปกคลุม ทำให้กรดไม่สามารถกัดกะเพราะได้

หมายเหตุ ในกล้วยดิบ จะกระตุ้นเซลล์ในเยื่อบุกระเพาะเพื่อหลั่งสารพวก “มิวซิน” ออกมาเคลือบกระเพาะ ซึ่งมีฤทธิ์ในการรักษาแผลในกระเพาะ

แก้อาการท้องเสีย
-กล้วยน้ำว้าอุดมไปด้วยสารแทนนิน ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาอาการท้องเสียชนิดที่ไม่รุนแรง (แทนนินทำให้ท้องผูก) แก้อาการท้องเสีย

        โดยการนำกล้วยน้ำว้าดิบมาปอกเปลือก แล้วนำเนื้อมาฝานเป็นแผ่นบางๆ แตกแดด 2 วัน ให้แห้งกรอบ บดเป็นผงให้ละเอียด ใช้ทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำข้าว หรือน้ำผึ้ง ทานก่อนอาหาร ครึ่งชั่วโมง หรือก่อนนอนทุกวัน

ช่วยชะลอความแก่
-สารต้านอนุมูลอิสระที่อุดมอยู่ในกล้วยน้ำว้ามีส่วนช่วยชะลอความแก่ได้ ดังนั้นผู้ที่อยากชะลอวัยให้ผิวพรรณยังแลดูอ่อนเยาว์ ควรรับประทานเป็นประจำ

        อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยบรรเทาผิวหยาบกร้านให้กลับมานุ่มและชุ่มชื่นคือ การมาส์กผิวด้วยกล้วยน้ำว้า โดยนำกล้วยสุกมาบดให้ละเอียด เติมน้ำผึ้งประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน นำไปพอกบริเวณผิวที่หยาบกร้าน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยให้ผิวนุ่มเนียนขึ้น

ช่วยลดน้ำหนัก
-กล้วยน้ำว้ามีส่วนช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดได้ และมีกากใยสูงซึ่งช่วยให้อิ่มไว จึงช่วยลดอาการอยากรับประทานของจุบจิบได้

ช่วยลดกลิ่นปาก 

-การรับประทานกล้วยน้ำว้า 1 ผลในตอนยเช้า ก่อนแปรงฟัน จะช่วยลดกลิ่นปากลงได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งน้ำยาบ้วนปากเลย

รักษาอาการเจ็บคอ ไอแห้ง 

-ผู้ที่มีปัญหาไอ เจ็บคออย่างหนัก ให้ลองรับประทานกล้วยน้ำว้าวันละ 4-6 ผล โดยที่จะแบ่งรับประทานกี่ครั้งก็ได้ แต่ไม่แนะนำให้รับประทานครั้งเดียวเพราะอาจส่งผลให้เกิดอาการจุกเสียดและอาเจียนได้

แก้ผื่นคันจากยุงกัด 
-หากมีผื่นคันจากการถูกยุงกัด แนะนำให้ใช้เปลือกกล้วยรักษา โดยใช้ด้านในของเปลือกมาทาบริเวณที่ถูกยุงกัด จะทำให้อาการคันลดลง

ข้อควรระวังการบริโภคกล้วยน้ำว้า
-การรับประทานกล้วยน้ำว้าในปริมาณมาก โดยเฉพาะกล้วยที่ยังอยู่ในช่วงห่าม อาจทำให้เกิดการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง เพราะมีแทนนินมาก

-กล้วยน้ำว้าสุก มีฤทธิ์ช่วยในการระบาย และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบขับถ่าย หากรับประทานติดต่อกันในปริมาณมาก อาจส่งผลให้เกิดการท้องเสีย
กินกล้วยน้ำว้าแล้วอ้วนไหม
        เนื่องจากกล้วยน้ำว้า ให้พลังงานมากกว่ากล้วยชนิดอื่น ๆ (1 ผล = 100 กิโลแคลอรี่) การรับประทานในปริมาณที่มากเกินไป อาจส่งผลให้ร่างกายได้รับพลังงานเกินความจำเป็น จนอาจทำให้เกิดโรคอ้วนได้ แต่หากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ก็นับเป็นแหล่งพลังงานชั้นดีเลยทีเดียว
 
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชม

อุโมงค์สีเขียว ของประเทศจีน

🌲อุโมงค์สีเขียว’ ของประเทศจีน ความสวยงามที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ที่เฉิงตู มณฑลเสฉวนของประเทศจีน นอกจากจะเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สวยงามและน่าสนใจไม่แพ้กันด้วย นั่นก็คือ ‘อุโมงค์สีเขียว’ ซึ่งมันเป็นสะพานวงแหวนแห่งเฉิงตู ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2013

อุโมงค์แห่งนี้ได้เพิ่มความน่าดึงดูดและน่าสนใจเข้าไปด้วยการปลูกไม้เลื้อยเอาไว้ตลอดระยะทาง 28 กิโลเมตร จึงทำให้มันกลายเป็นสะพานสีเขียวแสนงดงาม ซึ่งพอเวลาผ่านไป บรรดาไม้เลื้อยทั้งหลายก็ได้เติบโตขึ้น และค่อยๆ งอกงามจนกลายเป็นเป็นซุ้มสีเขียวหนา ที่ช่วยสร้างร่มเงา และสร้างความสบายตาให้แก่ผู้เดินทางสัญจรไปมาเป็นอย่างมาก

แต่นอกจากเรื่องของความสวยงามแปลกตาและความร่มรื่นแล้ว อุโมงค์แห่งนี้ยังเป็นแหล่งช่วยสร้างออกซิเจน และช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อีกทางด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนั่นเอง

ถือเป็นสิ่งก่อสร้างอีกอย่างหนึ่งที่มีความน่าอัศจรรย์ใจไม่น้อยเลยทีเดียว แถมยังเป็นการสร้างจุดเด่นที่น่าสนใจมากๆ 
ให้กับเมืองเฉิงตูอีกต่างหาก งานนี้ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีโอกาสเดินทางไปจีนหรือไปเฉิงตู 
ก็ลองไปชมอุโมงค์สีเขียวแห่งนี้ด้วยตาตัวเองดูสักครั้งแล้วกันนะจ๊ะ
ที่มา : news.cgtn.com

รายการบล็อกของฉัน