ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2561

มาทำสวนครัวให้เป็นภาพศิลปะธรรมชาติแขวนบนผนังบ้าน

มาทำสวนครัวให้เป็นภาพศิลปะธรรมชาติแขวนบนผนังบ้านกันเถอะ
มีงานศิลปะไม่มากชิ้นหรอกที่จะสวยงามเหมือนกับธรรมชาติจริงๆ แล้วทำไมไม่เอาธรรมชาติใส่กรอบและแขวนบนผนังที่บ้านของคุณล่ะ? นั่นคือแนวคิดที่อยู่เบื้องหลัง “Wall Garden” กระถางปลูกพืชแบบแอโรโพนิกส์รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแขวนเหมือนกับรูปภาพ และปลูกพืชสมุนไพร ดอกไม้ และผัก
แนวคิดสำหรับ Wall Garden เกิดจาก David Liston ที่ต้องการบางสิ่งบางอย่างที่จะช่วยในการต่อสู้กับความแปรปรวนของฤดูกาลที่เกิดจากความมืดในช่วงฤดู​​หนาวและพื้นที่ที่จำกัดในห้องครัวของเขา Liston และเพื่อนสามคนจากวิทยาลัยใช้เวลาหนึ่งปีในการพัฒนาความคิดและเปิดตัวภายใต้บริษัท Living Art Company ของพวกเขา
การออกแบบขั้นสุดท้ายได้รวมกับสวนครัวในบ้านอย่างลงตัว คล้ายกับผลิตภัณฑ์ของ Click and Grow และ PodPlants โดยการใช้พื้นที่ของผนังซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ส่วนอื่นๆ
แน่นอนว่าสวนผักติดผนังมันมีมาก่อนอยู่แล้ว แต่ Wall Garden ยังประกอบด้วยการรดน้ำอัตโนมัติและระบบไฟแสงสว่างสำหรับพืชที่ปลูก เริ่มต้นด้วยชุดสวนครัวพื้นฐานขนาด 13 x 15.4 x 3.5 นิ้ว (33 x 39.1 x 8.9 ซม.) ที่มีช่องสำหรับกระถาง 5 ช่อง ติดตั้งบนผนังใกล้กับปลั๊กไฟ ติดกรอบแม่เหล็กเข้ากับชุดสวนครัว ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ 18.4 x 18.5 นิ้ว (45.7 x 47 ซม.) ตัวกรอบสามารถสับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับการตกแต่งภายในห้องได้

ผู้ใช้จะสามารถเลือกชนิดของพืชที่จะปลูกได้ ชุดกระถางจะมีพืชชนิดที่ต้องการแสงและน้ำที่คล้ายๆกันให้เลือก Wall Garden มีชุดกระถางให้ แต่ผู้ใช้สามารถซื้อชุดกระถางมาเปลี่ยนใหม่ได้จากเว็บไซต์ Living Art ในราคา 10-15 ดอลลาร์สหรัฐ
ใส่น้ำลงไปในกระถางและสวมกระถางเข้าไปในช่องของชุดสวนครัว Living Art กล่าวว่า Wall Garden สามารถใช้ปลูกโหระพา ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ผักชี ผักคะน้า แตงกวา มิ้นท์ โบราจ ถั่วแคระ โรสแมรี่ มะเขือเทศ เชอร์รี่ และอื่นๆ พวกเขามีแผนจะสำรวจคนที่สั่งซื้อ Wall Garden เพื่อที่จะตัดสินใจว่ามีพืชชนิดไหนบ้างในการวางตลาด
Wall Garden มีราคาจองที่ 300 ดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะส่งของได้ในเดือนมีนาคม 2017
สามารถเติมน้ำและสารอาหารผ่านทางพวยด้านข้างของชุดสวนครัว และเมื่อเสียบปลั๊กมันจะพ่นละอองน้ำและสารอาหารไปที่รากของพืช น้ำที่เหลือจะตกลงไปในที่เก็บน้ำด้านล่างของตัวเครื่องเพื่อนำกลับมาใช้หมุนเวียนต่อไป Living Art กล่าวว่าจะต้องเติมน้ำและสารอาหารทุก 2-4 สัปดาห์
นอกจากนี้การเจริญเติบโตของพืชยังได้รับการสนับสนุนจากไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนของชุดสวนครัว แอปมือถือ (มีทั้ง Android และ iOS) จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาเมื่อเปิดปิดไฟ แจ้งเตือนเมื่อระดับน้ำต่ำ และช่วยแนะนำวิธีการปลูกพืชด้วย

จากที่เริ่มต้นเป็นผืนผ้าใบที่ว่างเปล่า Wall Garden ช่วยให้ผู้ใช้ปลูกสมุนไพร ดอกไม้ และผักที่เขาเลือกเองจนเจริญเติบโตเต็มกรอบรูป นอกจากนี้ยังไม่มีการใช้ยากำจัดศัตรูพืช ไม่ใช้ดิน การบำรุงรักษาต่ำ และยังเป็นตัวกรองอากาศแบบธรรมชาติในบ้าน Wall Garden กินไฟเพียงประมาณ 650 วัตต์ต่อวัน

พบเห็ดบางชนิดสามารถกินพลาสติกได้ อาจช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก

พบเห็ดบางชนิดสามารถ ‘กิน’ พลาสติกได้ อาจช่วยแก้ปัญหาขยะพลาสติกล้นโลก
บางทีเห็ดหรือฟังไจ (Fungi) อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเอาชนะสงครามขยะพลาสติกล้นโลกก็เป็นได้ เมื่อมีการพบเห็ดที่สามารถกินหรือย่อยสลายพลาสติกได้ภายในเวลาหลายสัปดาห์ แทนที่จะเป็นหลายสิบปีหากปล่อยให้ย่อยสลายเองตามธรรมชาติ

รายงานจากงานวิจัยของสวนพฤกษศาสตร์ Kew Gardens ประเทศอังกฤษซึ่งประกอบด้วยทีมนักวิทยาศาสตร์จาก 18 ประเทศจำนวนกว่า 100 คนได้แสดงศักยภาพของฟังไจที่หลากหลาย ทั้งสามารถย่อยสลายพลาสติก, ทำความสะอาดวัสดุกัมมันตรังสี และแม้กระทั่งช่วยเร่งกระบวนการผลิตไบโอดีเซล
ฟังไจ Aspergillus tubingensis
ซึ่งถูกพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ชาวจีนจากกองขยะในปากีสถานเมื่อปี 2017 สามารถเติบโตบนผิวของพลาสติก เอนไซม์ชนิดพิเศษของมันสามารถทำลายพันธะเคมีระหว่างโมเลกุลของพลาสติก แล้วแยกโมเลกุลของพลาสติกออกจากกันโดยใช้เส้นใย (mycelium) ของมัน
ในรายงานบอกว่า “ความสามารถนี้มีศักยภาพที่จะพัฒนาให้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมจากขยะพลาสติกที่เพิ่มมากขึ้นได้”

“นี่เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างเหลือเชื่อเพราะเป็นความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่ยิ่งใหญ่ ถ้ามันสามารถแก้ปัญหาได้จริงจะเป็นเรื่องที่ดีมาก” Ilia Leitch นักวิทยาศาสตร์อาวุโสที่ Kew Gardens กล่าว “เราอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการวิจัย แต่ฉันหวังจะได้เห็นการใช้ประโยชน์จากฟังไจที่สามารถกินพลาสติกได้ภายใน 5 ถึง 10 ปี”
เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่าขยะจากอังกฤษซึ่งถูกส่งไปรีไซเคิลที่โปแลนด์จริงๆแล้วกำลังถูกเผาและพ่นอนุภาคมีพิษอันตรายขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ จึงหวังว่าฟังไจจะสามารถปฏิวัติกระบวนการรีไซเคิลและให้วิธีย่อยสลายพลาสติกที่ปลอดภัยและยั่งยืน

ในรายงานยังได้กล่าวถึงบทบาทและความสำคัญของฟังไจที่ถูกใช้ในเบียร์ (ยีสต์), ยาเพนิซิลลิน, ผงซักฟอก และชีส รวมทั้งฟังไจชนิดที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือเห็ดซึ่งมีการบริโภคทั่วโลกมากถึงปีละ 42.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีฟังไจบางชนิดถูกนำไปใช้สำหรับงานก่อสร้างด้วย
อย่างไรก็ตามเชื่อกันว่ายังมีฟังไจอีก 93 เปอร์เซ็นต์ที่เรายังไม่รู้จักจากทั้งหมดที่คาดว่ามีราว 6 ล้านสายพันธุ์ ทุกๆปีจะมีการพบฟังไจสายพันธุ์ใหม่ราว 2,000 ชนิด ปี 2017 ที่ผ่านมามีการพบฟังไจสายพันธุ์ใหม่ในฝุ่น, ในภาพสีน้ำมัน และพบสายพันธุ์ใหม่ชนิดหนึ่งซ่อนอยู่ใต้เล็บมือคน

รายการบล็อกของฉัน