มีงานศิลปะไม่มากชิ้นหรอกที่จะสวยงามเหมือนกับธรรมชาติจริงๆ แล้วทำไมไม่เอาธรรมชาติใส่กรอบและแขวนบนผนังที่บ้านของคุณล่ะ? นั่นคือแนวคิดที่อยู่เบื้องหลัง “Wall Garden” กระถางปลูกพืชแบบแอโรโพนิกส์รุ่นใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อแขวนเหมือนกับรูปภาพ และปลูกพืชสมุนไพร ดอกไม้ และผัก
แนวคิดสำหรับ Wall Garden เกิดจาก David Liston ที่ต้องการบางสิ่งบางอย่างที่จะช่วยในการต่อสู้กับความแปรปรวนของฤดูกาลที่เกิดจากความมืดในช่วงฤดูหนาวและพื้นที่ที่จำกัดในห้องครัวของเขา Liston และเพื่อนสามคนจากวิทยาลัยใช้เวลาหนึ่งปีในการพัฒนาความคิดและเปิดตัวภายใต้บริษัท Living Art Company ของพวกเขา
แนวคิดสำหรับ Wall Garden เกิดจาก David Liston ที่ต้องการบางสิ่งบางอย่างที่จะช่วยในการต่อสู้กับความแปรปรวนของฤดูกาลที่เกิดจากความมืดในช่วงฤดูหนาวและพื้นที่ที่จำกัดในห้องครัวของเขา Liston และเพื่อนสามคนจากวิทยาลัยใช้เวลาหนึ่งปีในการพัฒนาความคิดและเปิดตัวภายใต้บริษัท Living Art Company ของพวกเขา
การออกแบบขั้นสุดท้ายได้รวมกับสวนครัวในบ้านอย่างลงตัว คล้ายกับผลิตภัณฑ์ของ Click and Grow และ PodPlants โดยการใช้พื้นที่ของผนังซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ส่วนอื่นๆ
แน่นอนว่าสวนผักติดผนังมันมีมาก่อนอยู่แล้ว แต่ Wall Garden ยังประกอบด้วยการรดน้ำอัตโนมัติและระบบไฟแสงสว่างสำหรับพืชที่ปลูก เริ่มต้นด้วยชุดสวนครัวพื้นฐานขนาด 13 x 15.4 x 3.5 นิ้ว (33 x 39.1 x 8.9 ซม.) ที่มีช่องสำหรับกระถาง 5 ช่อง ติดตั้งบนผนังใกล้กับปลั๊กไฟ ติดกรอบแม่เหล็กเข้ากับชุดสวนครัว ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ 18.4 x 18.5 นิ้ว (45.7 x 47 ซม.) ตัวกรอบสามารถสับเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับการตกแต่งภายในห้องได้
ผู้ใช้จะสามารถเลือกชนิดของพืชที่จะปลูกได้ ชุดกระถางจะมีพืชชนิดที่ต้องการแสงและน้ำที่คล้ายๆกันให้เลือก Wall Garden มีชุดกระถางให้ แต่ผู้ใช้สามารถซื้อชุดกระถางมาเปลี่ยนใหม่ได้จากเว็บไซต์ Living Art ในราคา 10-15 ดอลลาร์สหรัฐ
ใส่น้ำลงไปในกระถางและสวมกระถางเข้าไปในช่องของชุดสวนครัว Living Art กล่าวว่า Wall Garden สามารถใช้ปลูกโหระพา ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง ผักชี ผักคะน้า แตงกวา มิ้นท์ โบราจ ถั่วแคระ โรสแมรี่ มะเขือเทศ เชอร์รี่ และอื่นๆ พวกเขามีแผนจะสำรวจคนที่สั่งซื้อ Wall Garden เพื่อที่จะตัดสินใจว่ามีพืชชนิดไหนบ้างในการวางตลาด
สามารถเติมน้ำและสารอาหารผ่านทางพวยด้านข้างของชุดสวนครัว และเมื่อเสียบปลั๊กมันจะพ่นละอองน้ำและสารอาหารไปที่รากของพืช น้ำที่เหลือจะตกลงไปในที่เก็บน้ำด้านล่างของตัวเครื่องเพื่อนำกลับมาใช้หมุนเวียนต่อไป Living Art กล่าวว่าจะต้องเติมน้ำและสารอาหารทุก 2-4 สัปดาห์
นอกจากนี้การเจริญเติบโตของพืชยังได้รับการสนับสนุนจากไฟ LED ที่ติดตั้งอยู่ด้านบนของชุดสวนครัว แอปมือถือ (มีทั้ง Android และ iOS) จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาเมื่อเปิดปิดไฟ แจ้งเตือนเมื่อระดับน้ำต่ำ และช่วยแนะนำวิธีการปลูกพืชด้วย
จากที่เริ่มต้นเป็นผืนผ้าใบที่ว่างเปล่า Wall Garden ช่วยให้ผู้ใช้ปลูกสมุนไพร ดอกไม้ และผักที่เขาเลือกเองจนเจริญเติบโตเต็มกรอบรูป นอกจากนี้ยังไม่มีการใช้ยากำจัดศัตรูพืช ไม่ใช้ดิน การบำรุงรักษาต่ำ และยังเป็นตัวกรองอากาศแบบธรรมชาติในบ้าน Wall Garden กินไฟเพียงประมาณ 650 วัตต์ต่อวัน