👉การค้นพบนี้ลบล้างความเชื่อเดิมที่ว่าชนเผ่าพื้นเมืองออสเตรเลียเป็นผู้ล่าสัตว์และหาของป่าอย่างเดียว
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียและมหาวิทยาลัยซิดนีย์เผยแพร่การค้นพบที่เกาะแมบอูยัก (Mabuyag Island) นี้ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.
"งานวิจัยของเราเผยว่าบรรพบุรุษของชาวเกิมอูลกัล (Goegmulgal) แห่งเกาะแมบอยูยัก ได้ทำการเพาะปลูกด้วยเทคนิคที่ซับซ้อนและหลากหลายในฝั่งตะวันตกของช่องแคบทอร์เรสมาอย่างน้อย 2,000 ปีแล้ว" โรเบิร์ต วิลเลียม หัวหน้าทีมนักวิจัยระบุ
เขาบอกว่าในเชิงประวัติศาสตร์ ช่องแคบทอร์เรสเป็นเหมือน "เส้นแบ่ง" ระหว่างชนพื้นเมืองในนิวกินี-ซึ่งปัจจุบันคือส่วนหนึ่งของอินโดนีเซียและปาปัวนิวกินี-ที่ทำการเกษตรกรรม และชนพื้นเมืองในออสเตรเลียที่เป็นผู้ล่าสัตว์และหาของป่าอย่างเดียว
👉การค้นพบนี้ลบล้างความเชื่อเดิมที่ว่าชนเผ่าพื้นเมืองออสเตรเลียเป็นผู้ล่าสัตว์และหาของป่าอย่างเดียว
วิลเลียมบอกว่า การค้นพบครั้งนี้พิสูจน์ว่าช่องแคบทอร์เรสเป็นเหมือน "สะพานหรือตัวกรอง" ของวิถีการปลูกพืชของทั้งสองพื้นที่ ไม่ใช่เส้นแบ่ง
ระบบเกษตรกรรมนี้สะท้อนอาหารการกินท้องถิ่นหลัก ๆ ในช่วงเวลานั้นเช่น มัน เผือก และกล้วย
"อาหารเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมืองและงานวิจัยนี้ได้แสดงให้เห็นว่าวิถีเหล่านี้ที่มีมาเป็นเวลานาน"
ชาวอะบอริจินและชาวเกาะช่องแคบ
ทอร์เรสมักถูกเข้าใจผิดอย่างกว้างขวางว่าเป็นผู้เร่ร่อนไปตามที่ต่าง ๆ เพื่อล่าสัตว์และหาของป่าอย่างเดียวก่อนที่อังกฤษจะเข้าไปล่าอาณานิคม
นักประวัติศาสตร์หลายคนบอกว่า อังกฤษปฏิเสธหลักฐานที่ชี้ว่าพวกเขามีระบบเกษตรกรรมเป็นของตัวเองเพื่อที่จะสามารถอ้างได้ว่าพื้นที่บริเวณนั้นไม่มีใครลงหลักปักฐานอาศัยอยู่
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เริ่มมีงานวิจัยที่ทำให้คนทราบถึงการทำเกษตรกรรม วิศวกรรม และการก่อสร้าง ของชนเผ่าพื้นเมืองออสเตรเลียในช่วงก่อนการล่าอาณานิคมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ค้นหา
บทความที่ได้รับความนิยม
-
ลักษณะของหญ้าแฝก หญ้าแฝกมีชื่อสามัญว่า Vetiver Grass มีอยู่ 2 สายพันธุ์คือ หญ้าแฝกดอน (Vetiveria nemuoralis A. Camus) และหญ้าแ...
-
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยมีอาการที่อยู่ๆก็เกิด อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน วิงเวียน เหมือนสิ่งของรอบตัวหมุนเคว้ง เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจีย...
-
ไผ่หกยักษ์(สายพันธุ์น่าน) ไผ่หกยักษ์ ไผ่ลำใหญ่ เนื้อหนาลำตรงสวย The giant bamboo ( species , Nan) . เป็นไผ่ขนาดใหญ่ที่สุดรองลงม...
Wikipedia
ผลการค้นหา
วันพุธที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2563
นักวิจัยออสเตรเลียค้นพบว่าชนเผ่าพื้นเมืองปลูกกล้วยตั้งแต่ 2,000 ปีที่แล้ว
นักวิจัยพบจุลชีวินดึกดำบรรพ์ (microfossil) เครื่องมือหิน ถ่าน และซากกำแพง
นักโบราณคดีพบร่องรอยการทำสวนกล้วยของชนเผ่าพื้นเมืองออสเตรเลียซึ่งคาดว่าเกิดขึ้นเมื่อ 2,145 ปีที่แล้ว
สวนกล้วยนี้ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ บริเวณช่องแคบทอร์เรส ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือทวีปออสเตรเลีย นักวิจัยพบจุลชีวินดึกดำบรรพ์ (microfossil) เครื่องมือหิน ถ่าน และซากกำแพง ที่บริเวณดังกล่าว
วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2563
Bird’s Nest fungi เห็ดรังนกกระจอก
Bird’s Nest fungi เห็ดรังนก หรือเห็ดรังนกกระจอก เป็นเห็ดสายพันธุ์ Nidulariaceae มีอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ และมีหลากสี ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้มจนเกือบเป็นสีดำ พบในเขตป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง เกิดบนขอนไม้ผุ
ลักษณะดอกเห็ดคล้ายถ้วย หรือรังนกมีไข่เล็กๆ อยู่ข้างใน ขอบปากถ้วยมีความกว้างประมาณ 1 เซนติเมตร ผิวด้านนอกสีน้ำตาลอ่อนปกคลุมไปด้วยเส้นขนหยาบสั้นๆ ผิวด้านในสีดำหรือเทาอมน้ำตาลหรือสีดำ มีเส้นลายนูนยาวขนานกันจากขอบปากถ้วยลงไปที่โคนก้านดอก
Bird’s Nest fungi เป็นสายพันธุ์เห็ดที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แล้ว เห็ดรังนกยังช่วยบำรุงดินในพื้นที่โดยรอบอีกด้วย
Bird’s Nest fungi
ต้นไม้ฆาตกร Pisonia brunoniana
ต้นไม้ฆาตกร!? พบกับ ‘Pisonia brunoniana’ พืชที่ล่อลวงนกให้มากินอาหาร
โดยปกติแล้ว…พืชส่วนใหญ่นั้นเกิดมาเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและอาหารสำหรับนก ที่นอกจากจะคล้ายกำจัดแมลงรบกวนให้แล้ว ยังเป็นผู้ช่วยในเรื่องการขยายพันธุ์ของพืชด้วย แต่นั่นคงไม่ใช่กับพืชอย่าง Pisonia brunoniana หรือที่ได้ฉายาว่า ต้นไม้ฆาตรกร เพราะมันเป็นพืชไม่กี่ชนิดที่สามารถสังหารนกมาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งนกที่มาติดกับดักฝักเมล็ดของต้นพีโซเนีย จนหนีไปไหนไม่ได้
แต่ได้มีข้อสันนิษฐานว่า ต้นไม้ชนิดนี้อาจเติบโตด้วยมูลของนก และการทำให้นกมาติดอยู่บนต้น จะช่วยให้ต้นไม้ได้รับมูลจากนกอย่างแน่นอนขึ้น
โดยปกติแล้ว…พืชส่วนใหญ่นั้นเกิดมาเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและอาหารสำหรับนก ที่นอกจากจะคล้ายกำจัดแมลงรบกวนให้แล้ว ยังเป็นผู้ช่วยในเรื่องการขยายพันธุ์ของพืชด้วย แต่นั่นคงไม่ใช่กับพืชอย่าง Pisonia brunoniana หรือที่ได้ฉายาว่า ต้นไม้ฆาตรกร เพราะมันเป็นพืชไม่กี่ชนิดที่สามารถสังหารนกมาแล้วนับไม่ถ้วน ซึ่งนกที่มาติดกับดักฝักเมล็ดของต้นพีโซเนีย จนหนีไปไหนไม่ได้
และทำให้มันแห้งตายกลายเป็นศพบนต้นไม้ ซึ่งสาเหตุนั้นก็ยังไม่แน่ชัด ว่าเพราะเหตุใดต้นไม้ชนิดนี้ถึงได้ทำให้นกมาแห้งตายบนต้น โดยที่มันไม่ได้รับสารอาหารใดๆ
แต่ได้มีข้อสันนิษฐานว่า ต้นไม้ชนิดนี้อาจเติบโตด้วยมูลของนก และการทำให้นกมาติดอยู่บนต้น จะช่วยให้ต้นไม้ได้รับมูลจากนกอย่างแน่นอนขึ้น
วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2563
พบฟอสซิลผืนป่ายุคดีโวเนียนในจีน กว้างเท่าสนามฟุตบอล 35 สนาม มีอายุกว่า 419 ล้านปี
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ทีมนักวิทยาศาสตร์ของประเทศจีนได้ออกมาประกาศการค้นพบฟอสซิลผืนป่าโบราณอายุกว่า 419 ล้านปี โดยเผยแพร่ผ่านวารสารวิทยาศาสตร์
Current Biology
Current Biology
ฟอสซิลผืนป่าที่ถูกพบในครั้งนี้ ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้านซินหาง ของมณฑลอานฮุย โดยเป็นป่าจากยุคดีโวเนียน ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ที่ไม่มีกิ่งรูปร่างคล้ายปาล์มที่ชื่อ “Lycopsid” และกินพื้นที่พอๆ กับสนามฟุตบอล 35 สนามต่อกัน(ราวๆ 250,000 ตารางเมตร)
ภาพจำลองป่าซินหางในอดีตจากข้อมูลที่มีอ้างอิงจากข้อมูล
ในรายงาน ร่องรอยของผืนป่าแห่งนี้ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกในเหมืองดินเหนียวใกล้หมู่บ้าน โดยอยู่ในสภาพของซากดึกดำบรรพ์ที่ปรากฏให้เห็นในผนังของเหมือง
และเมื่อทำการขุดออกมา ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็พบกับโครงสร้างของลำต้นของต้นไม้และซากดึกดำบรรพ์ที่เหมือนลูกสนซึ่งมาทราบในภายหลังว่าเป็นของต้น Lycopsid นั่นเอง
หนึ่งในซากดึกดำบรรพ์ที่ถูกพบ
“ความหนาแน่นที่สูงและขนาดต้นไม้ที่เล็กของป่าแห่งนี้ ทำให้ป่าซินหางมีความคล้ายกับทุ่งอ้อยมาก แม้ว่าพืชในป่าซินหางจะกระจายเป็นหย่อมๆ ก็ตาม” คุณ Deming Wang หนึ่งในผู้ทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้ค้นพบป่ากล่าว
คุณ Wang กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ป่าซินหางนั้นอาจเป็นไปได้ว่าในอดีตจะมีสภาพคล้ายป่าชายเลนตามแนวชายฝั่งเช่นกัน เนื่องจากป่าแห่งนี้ตั้งถูกในสภาพแวดล้อมที่คล้ายกันและยังมีบทบาทต่อระบบนิเวศที่เหมือนกันอีกด้วย
ป่าในลักษณะนี้ จนถึงปัจจุบันถูกพบอยู่เพียงแค่ 3 แห่งทั่วโลกเท่านั้น โดยอีกสองแห่งที่เหลือตั้งอยู่ที่สหรัฐอเมริกา และประเทศนอร์เวย์ และนับว่าเป็นป่าที่มีความสำคัญในการศึกษาระบบนิเวศโบราณมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลกเลย
โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการตรวจสอบป่าที่ถูกค้นพบ จะทำให้พวกเขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเหตุผลที่ว่า ทำไมปริมาณของคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศของยุคดีโวเนียนถึงลดลงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้เราทราบถึงเหตุผลของการเกิดยุคน้ำแข็งคะรูต่อไป
ยูคาลิปตัสสีรุ้ง
ยูคาลิปตัสสีรุ้ง
มีชื่อเรียกอีกชื่อว่า “มินดาเนากัม” คือ ต้นยูคาลิปตัสสีรุ้งที่พบได้ใน เกาะนิวกินี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของประเทศออสเตรเลีย เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก,
พื้นที่เกาะนิวบริเทน, รวมไปถึงพื้นที่เกาะเซรัม เกาะซูลาเวซี เกาะในประเทศอินโดนีเซีย และ เกาะมินดาเนาเกาะในประเทศฟิลิปปินส์
ยูคาลิปตัสสีรุ้ง เป็นพืชขนาดใหญ่ที่มีความสูงมากกว่า 70 เมตร
เดิมทีต้นยูคาลิปตัสสีรุ้งแรกเริ่มจะมีลำต้นสีเขียว และเนื่องจากต้นยูคาลิปตัสสีรุ้งมีเปลือกหลายชั้นและหลากสี
โดยเรียงสีจาก สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีม่วง สีม่วงเข้มแกมน้ำตาล ตามลำดับ และเมื่อเปลือกนอกเริ่มถลอกสีที่อยู่ตามชั้นต่างๆ ก็จะเผยออกมาจนก่อให้เกิดต้นยูคาลิปตัสสีรุ้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในที่สุด
Rainbow Eucalyptus
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
รายการบล็อกของฉัน
-
-
Comb jelly สัตว์โลกน่าพิศวง “หวีวุ้นผิวปุ่ม” ร่างกายมีรูทวารเฉพาะตอนจะขับถ่าย - Comb jelly สัตว์โลกน่าพิศวง หวีวุ้นผิวปุ่ม ร่างกายมีรูทวารเฉพาะตอนจะขับถ่าย สำหรับสัตว์ตัวนี้นะครับอยู่ในทะเลแต่รับรองได้ว่ามันไม่ใช่แมงกะพรุนเพราะว่านักว...
-
ชาวเมืองงง!? เสียงเบสลึกลับที่สร้างความรำคาญให้กับชาวฟลอริดา - ชาวเมืองงง!? เสียงเบสลึกลับที่สร้างความรำคาญให้กับชาวฟลอริดาอาจเป็นแค่เสียงปลาผสมพันธุ์กันดัง ๆ ชุมชนทำการระดมเงินเพื่อเป็นทุนในการสืบสวน และตอนนี้นักวิ...
-
นักโบราณคดีชี้ โบราณสถานในป่าสกอตแลนด์ อาจเป็นโรงกลั่นวิสกี้เถื่อนจากศตวรรษที่ 18 - ลึกเข้าไปในป่า Loch Ard ทางตอนเหนือของเมืองกลาสโกว์ประเทศสกอตแลนด์ราวๆ 30 กิโลเมตร ยังคงมีโบราณสถานสร้างจากหินสองแห่งหลับใหลอยู่ มันถูกเรียกโดยกลุ่มนักป...