ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แปลกลึกลับ! ชาวบ้านอุตรดิตถ์พบน้ำผึ้งสีแดงคล้ายสีเลือด


ตะลึง! ชาวบ้านอุตรดิตถ์พบน้ำผึ้งสีแดงคล้ายสีเลือด เชื่อให้สรรพคุณทางยาสูง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสังเวียน อินเปีย ซึ่งทำอาชีพตีผึ้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ได้ขับไล่ผึ้งออกจากรังซึ่งตั้งบนต้นมะขามใน ต.ป่าเซ่า อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ก่อนที่จะเก็บรังผึ้งไว้ในที่ปลอดภัย แต่แล้วเมื่อตัดรังผึ้งและบีบให้น้ำผึ้งไหลออกมา ปรากฎว่าน้ำผึ้งที่ไหลจากรังผึ้งเป็นสีแดง 
สร้างความประหลาดใจให้กับผู้พบเห็น
น้ำผึ้งประหลาดสีแดงสดเหมือนเลือด
ดูกันชัดๆน้ำผึ้งสีเลือด

การค้นพบน้ำผึ้งสีแดงนี้ สืบเนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ พบผึ้งหลวงมาทำรังอยู่บนต้นมะขามที่สูงกว่า 40 เมตร โดยรังผึ้งมีขนาดความกว้างประมาณ 100 เซนติเมตร ยาวประมาณ 200 เซนติเมตร ชาวบ้านหวั่นเกรงผึ้งจะบินออกมาทำร้ายนักเรียนและชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียง จึงได้เรียกนายสังเวียนซึ่งชำนาญการตีผึ้งมายกรังออกไป ซึ่งนายสังเวียนได้ทำพิธีเคารพสักการะต้นมะขาม จากนั้น ได้สวมชุดป้องกันใบหน้า เดินเข้าไปรมควันรังผึ้งด้วยควันจากกาบมะพร้าวที่เผาไหม้ ทำให้ผึ้งบินหนีแตกกระจายออกจากรัง
เมื่อผึ้งหนีออกไปแล้ว นายสังเวียนได้เก็บรังผึ้งใส่ถุงลงจากต้นมะขาม แต่เมื่อเปิดถุงกลับพบว่าน้ำผึ้งที่ไหลออกมาเป็นสีแดง นายสังเวียนจึงใช้มีดตัดรังบางส่วนและบีบน้ำผึ้งออกมา ปรากฎว่าหยดเป็นสีแดงฉานคล้ายเลือด สร้างความตกตะลึงอย่างมาก จากนั้นนายสังเวียนได้ตัดรังผึ้งชิ้นเล็กใส่ใบตองและจุดธูปสักการะเทพารักษ์ พระภูมิเจ้าที่เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ
นายสังเวียนกล่าวว่า ตนยึดอาชีพนี้มาเกือบ 20 ปี ไม่เคยพบเห็นน้ำผึ้งแบบนี้มาก่อน ถือว่าเป็นน้ำผึ้งที่หายากมาก และราคาน้ำผึ้งสีแดงสูงกว่าน้ำผึ้งทั่วไป ชาวบ้านเชื่อว่าหากได้ดื่มน้ำผึ้งสีแดง จะช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงให้กับร่างกายมากขึ้น ร่างกายกระชุ่มกระชวย ที่สำคัญยังช่วยให้ผู้กินมีอายุยืน อย่างไรก็ตามก็ไม่สามารถระบุได้ว่า สีแดงของน้ำผึ้งนี้มาจากเกสรดอกไม้ชนิดใด เพราะหากเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาลเข้ม จะมาจากดอกสาบเสือ ดอกลิ้นจี่ ดอกลำไย ดอกเงาะ หรือดอกทุเรียน
คลิปประกอบบทความ
นายสังเวียนยังกล่าวอีกว่า การตีผึ้งครั้งนี้เป็นวิธีธรรมชาติที่ไม่ไปทำร้ายตัวผึ้ง เป็นการใช้ควันไฟไล่ตัวผึ้งให้หลบหนีออกไปจากรัง สำหรับรังผึ้งที่ตีได้เมื่อนำลงมาแล้วเหลือเนื้อในกว้าง 80 เซนติเมตร ยาว 100 เซนติเมตร ประกอบด้วย ขี้ผึ้งส่วนที่สกัดจากสารดอกไม้ ส่วนที่สองวงในที่เป็นรังร้างของลูกน้อยที่โตเป็นตัวผึ้งเริ่มออกไปหาอาหารได้แล้ว และส่วนสุดท้ายรังผึ้งส่วนที่เก็บน้ำหวาน ซึ่งเหลือจากการเลี้ยงดูตัวอ่อน น้ำผึ้งแดงที่ได้มีปริมาณ 3,500 ซีซี เท่ากับขวดกลม จำนวน 4 ขวด ทั้งนี้ นายสังเวียนยังได้ตัดรังผึ้งส่วนหนึ่งแจกจ่ายให้กับเด็กนักเรียนไปรับประทานกันหลังทราบข่าว เมื่อทราบว่ารังผึ้งขนาดใหญ่ถูกตัดนำลงมาแล้ว ได้สร้างความดีใจให้กับเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก ที่ไม่ต้องหวาดกลัวผึ้งแตกรังบุกเข้าต่อยอีกต่อไป
ฟังเพลงย้อนอดีตกับ Men love

วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

กฤษณา (Kristsana)

กฤษณา (Kristsana)
Aquilaria crassna Pierre ex Lecomte
วงศ์ : THYMELAEACEAE
ชื่อสามัญ Eagle wood
ชื่ออื่น : ไม้หอม (ภาคตะวันออก)
"...ใบพ้อพันห่อหุ้ม        กฤษณา
หอมระรวยรสพา         เพริศด้วย
คือคนเสพเสน่หา         นักปราชญ์
ความสุขซาบฤาม้วย         ดุจไม้กลิ่นหอมฯ..."

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์   
กฤษณาเป็นไม้ต้น สูง 18-30 ม. เปลือกต้นสีเทา แตกเป็นร่องยาวตื้น ๆ  ตามกิ่งอ่อนมีขนสีขาวปกคลุม     
*ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับรูปรี กว้าง 3-5 ซม. ยาว 6-11 ซม. โคนใบมน ปลายใบเป็นติ่งแหลม แผ่นใบค่อนข้างหนา เรียบเกลี้ยง สีเขียว มีขนประปรายตามเส้นใบด้านล่าง ขอบใบเรียบ ก้านใบยาว 0.2-0.7 ซม.
*ดอก ออกเป้นช่อตามซอกใบ ดอกสีเขียวอมเหลือง กลีบเลี้ยงโคนติดกันเป็นหลอดสั้น ปลายแยกเป็น 5 แฉก ติดทน กลีบดอก 5 กลีบ เกสรเพศผู้มี 10 อัน
*ผล รูปกลมรีมีสันแคบตามยาวของผล ผิวขรุขระเป็นลายเส้นสีเขียว มีขนละเอียดสั้นคล้ายกำมะหยี่ พอแก่แตกอ้าออก เมล็ดกลมรี สีน้ำตาลเข้ม มี 1-2 เมล็ด
สรรพคุณ
*เนื้อไม้ ที่เป็นราดำ มีกลิ่นหอม คุมธาตุ เป็นยาบำรุงโลหิตและหัวใจ แก้ปวดข้อ แก้ตับปอดพิการ ใช้ผสมเป็นยาหอม
*ชันและน้ำมันหอมของกฤษณา เป็นยาบำรุงหัวใจ แก้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ ท้องร่วง โรคปวดบวมตามข้อ ผสมกับยาหอมต้มน้ำดื่มแก้กระหายน้ำ


รายการบล็อกของฉัน