ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันศุกร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2560

เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับผู้ที่อยากปลูกหน่อไม้ฝรั่ง


เคล็ด(ไม่)ลับสำหรับผู้ที่อยากปลูกหน่อไม้ฝรั่ง ต้องอ่านด่วน! หน่อใหญ่ กรอบ หวาน ราคาสูงมาก รู้แล้วรีบปลูกเลย
หน่อไม้ฝรั่งชอบดินที่มีความชื้นแต่ไม่แฉะ ค่า PH ความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ที่ 6.5 ใครทำค่านี้ได้ โรคเชื้อราจะไม่บังเกิดมี

- เลิกใช้ยาฆ่าหญ้าโดยเด็ดขาด ถ้าใช้ยาฆ่าหญ้า หน่อไม้ฝรั่งจะชงักการแทงหน่ออย่างน้อย 4 เดือน ต้นจะโทรม บางครั้งถึงยืนต้นตายได้
- ห้ามนำมูลสัตว์ปีกทุกชนิด (ไก่ เป็ด ค้างคาว) ไปใส่ เพราะจะทำให้หน่อไม้ฝรั่งออกดอกมาก ก้านดอกยาว กางโด่เด่ และเกิดเชื้อรา
-ให้ใช้เฉพาะ "ขี้วัวไล่ทุ่งหรือวัวนม + แกลบดิบเก่า" เท่านั้น
-ห้ามใช้แกลบดำ เพราะพืชตระกูลกินหน่อไม่ชอบ (รวมทั้ง ไผ่ รวก)
-ใส่ ยิบซั่ม กระดูกป่น การบำรุง : ทางดิน
- ช่วงพักต้น... ให้น้ำหมักชีวภาพ เดือนละ 1 ครั้ง
- ช่วงแทงหน่อ... ให้น้ำหมักชีวภาพ เดือนละ 1 ครั้ง

วิธีทำน้ำหมักชีวภาพ
หน่อกล้วยอ่อน น้ำหนัก 5 กิโลกรัม เอามีดสับให้ละเอียด + หัวเชื้อจุลินทรีย์ ประมาณ 1 ลิตร + กากน้ำตาล 5 ลิตร เอาใส่รวมกันในถัง 200 ลิตร ใส่น้ำให้เต็มถัง คนให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ให้ย่อยสลาย ฉีดแล้วทำให้ต้นหน่อไม้ฝรั่งเขียวและออกหน่อดี มีฉีดแคลเซียม-โบรอน เดือนละ 1-2 ครั้ง ตามความเหมาะสม จะช่วยเสริมความแข็งแรงของต้นให้หน่อมีความสมบูรณ์
การทำหัวเชื้อไว้สำหรับทำน้ำหมักชีวภาพใช้เอง

วัสดุ - อุปกรณ์
- กากน้ำตาล 2 กิโลกรัม หรือน้ำตาลทรายแดง ห้ามไช้น้ำตาลทรายขาวนะครับ
- น้ำมะพร้าว 4 ? 5 ลูก
- สับปะรด 2 ลูก
- ถังพลาสติกที่มีฝาปิด 1 ใบ
วิธีทำ หั่นสับปะรดแก่จัดทั้งลูก (ทั้งเปลือกและเนื้อ) เป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 ลูก ปอกมะพร้าวอ่อนเอาแต่น้ำมะพร้าว 4 ? 5 ลูกนำสับปะรด น้ำมะพร้าว และกากน้ำตาล มาผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน ใส่ถังพลาสติกปิดฝาทิ้งไว้ในที่ล่ม (ควรคลุกเคล้ากลับไปกลับมาในถัง ทุก 2 วัน) ประมาณ 1 -2 เดือน จะได้หัวเชื้ออีเอ็มที่มีสีน้ำตาล กลิ่นหอม ไว้ใช้ประโยชน์ต่อไป

การบำรุง : ทางใบ
- ให้แคลเซียม โบรอน อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
- ให้น้ำทุก 2-3 วัน พอหน้าดินชื้น
วิธีทำปุ๋ยแคลเซียม โบรอนใช้เองสูตรประหยัด
1. แคลเซียมไนเตรท (15-0-0 ) 1,200 กรัม( 12 ขีด)
2. โบรอนพืช กรดบอริค 400 กรัม( 4 ขีด)
3. น้ำเปล่า 20 ลิตร

วิธีการทำ
เทน้ำเปล่าลงไปในภาชนะที่เตรียมไว้จำนวน 20 ลิตร และใส่ปุ๋ยแคลเซียมไนเตรท( 15-0-0 ) ใสลงไป แล้วคนให้ปุ๋ยละลายให้หมด พอปุ๋ยแคลเซียมไนเตรท( 15-0-0 )ละลายหมดแล้ว ก็ให้เติมโบรอนพืชลงไป คนให้ละลาย เสร็จแล้วนำปุ๋ยแคลเซียมโบรอนที่ ผสมกันเรียบร้อยแล้วไปบรรจุใส่ภาชนะที่ปิดฝามิดชิดเก็บไว้ในที่ร่ม ในอุณหภูมิห้อง เพื่อที่จะนำไปใช้ต่อไป

วิธีการใช้
ปุ๋ยแคลเซียมโบรอน 100 ซีซี นำมาผสมน้ำ 20 ลิตร แล้วนำไปฉีดพ่นให้พืช โดยฉีดพ่นทั้งบนใบและใต้ใบ ให้ฉีดพ่นให้เปียกโชกทั้งต้น ฉีดทุก 5-7 วัน

คุณสมบัติ
ช่วยเคลื่อนย้ายฮอร์โมน ควบคุมการแบ่งเซลล์เพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ให้เป็นไปอย่างสมดุล ช่วยทำให้ผสมเกสรติดง่าย ผลดก ช่วยในการขยายผลให้ผลใหญ่ เนื้อแน่น เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มรสชาติดีให้กับผลผลิต ทำให้ขั้วดอกเหนียว ป้องกันผลร่วง ผลแตก ป้องกันโรคไส้เน่า ไส้เหลว ไส้ด้าน เพิ่มการแตกตาดอก-ยอด เสริมสร้างความแข็งแกร่งของผนังเซลล์

การป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช
แมลงศัตรูที่สำคัญได้แก่ เพลี้ยไฟ หนอนกระทู้ กัดต้น หนอนกระทู้ผัก หนอนกระทู้หอม
ป้องกันกำจัดดังนี้
1. ใช้สมุนไพรประเภทฆ่าเพลี้ยและแมลง เช่น หางไหล ขอบชะนาง แดงขาว หนอนตายหยาก ใบน้อยหน่า พญาไร้ใบ แสยก เมล็ดมะกล่ำ
2. ใช้สมุนไพรรสขมไล่แมลง เช่น ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด สะเดา พญาไร้ใบ
3. ใช้สมุนไพรเปรี้ยวไล่แมลง เช่น เปลือกส้ม มะกรูด มะนาว มะขาม
4. ใช้สมุนไพรหอมระเหยไล่แมลง เช่น ตะไคร้หอม โหระพา กระเพา ผักชี สาบเสือ พริกไทยขิง ข่า กระทกรก
5. ใช้จุลินทรีย์ควบคุม เช่น การใช้แบคทีเรีย ไส้เดือนฝอย ใช้เชื้อราไตรโคเดอรม่า
6. รักษาความสมดุลทางธรรมชาติ ศัตรูธรรมชาติ ตัวห้ำ ตัวเบียน
7. จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ทำลายวัชพืชที่เป็นแหล่งวางไข่แมลงผีเสื้อ
สูตรปุ๋ยน้ำหมักจากโคนหน่อไม้ฝรั่ง บำรุงต้น บำรุงหน่อ

สูตร :
1. โคนหน่อไม้ฝรั่ง 30 กิโลกรัม
2. กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม
3. จุลินทรีย์น้ำ 10 ลิตร
วิธีการทำ : นำโคนหน่อไม้ฝรั่งที่ตัดทิ้งมาหมักร่วม กากน้ำตาล จุลินทรีย์น้ำ 10 ลิตรและ หมักทิ้งไว้ประมาณ 20 วัน
การนำไปใช้ : นำไปฉีดพ่นบำรุงได้ทุกช่วงระยะ โดยใช้น้ำหมัก 20 ซีซี/น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วช่วงเช้าหรือเย็น
ประโยชน์ : ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของลำต้นสร้างลำต้นให้แข็งแรง กระตุ้นการแตกหน่อ ทำให้หน่อมีขนาดใหญ่ หน่อตรง ได้ผลผลิตในปริมาณที่เพิ่มขึ้น

การปลูกแบบหน่อเขียว คือ การปล่อยให้หน่อไม้ฝรั่งเจริญเติบโตงอกเหนือดิน ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอ ทำให้ได้หน่อไม้ที่มีสีเขียว สามารถนำไปรับประทานสดได้ การปลูกหน่อไม้ฝรั่งแบบเขียวนี้จะแตกต่างการปลูกหน่อไม้แบบขาวก็ตรงที่เกษตรกรผู้ปลูกจะต้องมีการควบคุมคุณภาพของหน่อไม้ ต้องให้หน่อมีความยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตรให้มีความเขียวของหน่อซึ่งจะต้องวัดจากปลายยอดลงมาไม่ต่ำกว่า 18 เซนติเมตรปลายหน่อจะต้องไม่คดงอหรือบาน จึงจะขายได้ราคาดี

การปลูกแบบหน่อขาว เป็นการปลูกหน่อไม้โดยใช้ดินหรืออินทรียวัตถุในการคลุมโคนต้น ไม่ให้โดนแสงแดด จึงจะได้หน่อไม้ที่มีสีขาว ข้อดีคือไม่จำเป็นต้องรักษาคุณภาพในเรื่องรูปร่าง เพราะต้องนำมาลอกเปลือกและตัดตรงที่มีตำนิออก นิยมนำมาบรรจุกระป๋อง สำหรับในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี จะนิยมปลูกแบบหน่อเขียวมากกว่า เพราะขายได้ราคาดีกว่า และที่สำคัญต้องมี GAP รับรองมาตรฐานของสินค้าเกษตรอีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

ไม่รู้ไม่ได้แล้ว! 10 ผักผลไม้ที่ งอกใหม่เองได้

ไม่รู้ไม่ได้แล้ว! 10 ผักผลไม้ที่ “งอกใหม่” เองได้
ในยุคนี้ หลายๆ คนต่างก็ฝันหวานอยากมีสวนผักสวนครัวรั้วกินได้เป็นของตัวเองทั้งนั้น ทำไมน่ะหรอ? ก็เพราะการปลูกผักผลไม้ทานเองนั้นสุดแสนจะมีประโยชน์น่ะสิ ไหนจะทั้งได้ทานของออร์กานิค ทั้งประหยัดเงินเพราะไม่ต้องไปจ่ายตลาด และการทำสวนก็ยังสุดแสนจะง่ายเสียอีก อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดทางด้านพื้นที่จึงอาจทำให้หลายๆ คนฝันสลาย

ข้อจำกัดดังกล่าวจึงเป็นที่มาของเทคนิคเจ๋งๆ เหล่านี้ ซึ่งอันที่จริงแล้วมีผักและผลไม้จำนวนมากมายที่สามารถงอกขึ้นใหม่ได้เมื่อถูกนำไปไว้ในน้ำหรือในดิน แต่ถึงกระนั้นก็ตามเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่น ขนาดของภาชนะควรจะสมดุลกับขนาดของผักผลไม้ที่จะนำมาปลูกนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ เราจึงได้รวบรวมผักผลไม้ 10 ชนิด ที่สามารถงอกใหม่ได้เองพร้อมกับเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการปลูกมาไว้ได้อ่านกัน ณ ที่นี้
ตะไคร้นำรากของตะไคร้ที่ปกติพวกเราจะโยนมันทิ้งเพราะมันแข็งเกินกว่าจะทานได้มาแช่น้ำ ในเวลาเพียงแค่ 3 สัปดาห์ คุณก็จะได้เห็นต้นตะไคร้ต้นใหม่งอกขึ้นมา!

คึ่นช่าย
สำหรับคึ่นช่ายนั้นจะต้องนำไปปลูกในดิน เพราะหากแช่มันไว้แค่ในน้ำต้นคึ่นช่ายก็จะหยุดงอกหลังผ่านไปได้เพียงแค่สามวัน

ต้นแครอท
ส่วนบนของแครอทซึ่งปกติคนส่วนใหญ่จะตัดทิ้ง สามารถนำมาปลูกใหม่ได้ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ต้นแครอทแล้ว!

หัวหอม
นำส่วนล่างของหัวหอมไปไว้ในดิน เพียงเท่านี้หอมต้นใหม่ก็จะงอกขึ้นมาแล้ว ง่ายเกินไปไหมเนี่ย!?

ผักกาดหอม
คุณสามารถปลูกผักกาดหอมโรมันได้โดยใช้เพียงหัวผักกาดที่ใช้แล้ว ถึงแม้การปลูกโดยใช้น้ำเพียงอย่างเดียวจะได้ผลน้อยกว่าปลูกในดิน แต่มันก็ยังเจ๋งใช่ไหมล่ะ!

อะโวคาโด
จริงๆ แล้วคุณสามารถปลูกต้นอะโวคาโดได้ถ้าคุณมีความอดทนมากพอโดยใช้เพียงเมล็ดของมัน ถึงแม้จะกินเวลาประมาณ 5 – 13 ปี กว่าต้นอะโวคาโดจะเริ่มโต แต่ก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมิใช่น้อย

ต้นกระเทียม
คุณสามารถนำกลีบกระเทียมมาใช้ในการปลูกต้นกระเทียมได้!

มันฝรั่งหวาน
เพียงแค่นำหัวมันฝรั่งไปแช่ไว้ในน้ำก็จะได้ต้นมันฝรั่งต้นใหม่งอกขึ้นมาแล้ว!

ต้นหอม
เมื่อคุณนำรากของต้นหอมที่ถูกตัดทิ้งไปแช่ไว้ในน้ำ ในเวลาเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ต้นหอมต้นใหม่ก็จะงอกออกมาให้เห็น

สัปปะรด
ถึงแม้จะใช้เวลาถึงสามปี แต่หัวของสัปปะรดที่ถูกตัดก็สามารถนำไปปลูกใหม่ได้
รู้เทคนิคดีๆ แบบนี้ คงไม่รีบหามาปลูกไม่ได้แล้ว!!

วีธีเลือกแตงโมขั้นเทพ รับรองหวานฉ่ำทุกลูก


วีธีเลือกแตงโมขั้นเทพ รับรองหวานฉ่ำทุกลูก!!
ใครบ้างล่ะที่จะไม่ชอบกินแตงโม? เป็นที่รู้กันว่าผู้คนส่วนมากนั้นต่างหลงเสน่ห์ให้กับความหวานกรอบของแตงโม ซึ่งเมื่อได้ทานเข้าไปก็เหมือนได้คืนความสดชื่นให้กับร่างกายของเรา

แต่บางทีนั้น การที่เราจะเลือกแตงโมให้น้ำเยอะ หวานฉ่ำ และสุกงอมเต็มที่ก็ดูจะเป็นเรื่องยากไป เพราะว่าเราไม่ใช่เกษตรกรนี่นา แต่ไม่ต้องห่วง วันนี้เรามีวิธีเลือกแตงโมง่ายๆมาฝากกันเพียงแค่คุณสังเกตสิ่งเล็กๆน้อยๆบนแตงโมก่อนที่จะซื้อมันไป ซึ่งมันสามารถทำให้คุณรู้ได้เลยว่าแตงโมลูกไหนฉ่ำหรือไม่ฉ่ำ!!

1. ดูผิวแตงโมซะหน่อย
พื้นที่สีออกเหลืองๆบนผิวแตงโมนั้นนั้นคือจุดที่แตงโมนั้นอยู่ติดกับพื้นดินในขณะที่มันเจริญเติบโต ซึ่งแตงโมที่สุกเต็มที่แล้วนั้นมักจะมีสีออกเหลืองครีมๆ หรือบางทีก็เป็นสีส้มอมเหลือง ไม่ใช่สีขาวนะจ้ะ

2. ลายนั้นสำคัญไฉน
ลายสีน้ำตาลๆบนผลแตงโมนั้น ไม่ใช่ลายตำหนิหรอกนะ แต่มันคือลายที่ผึ้งนั้นได้มีการผสมเกสรดอกไม้บริเวณผิวแตงโมนั้นหลายๆครั้งจนเกิดเป็นลายตาข่ายสีน้ำตาลนี้ขึ้น และถ้ายิ่งมีลายมาก ผลไม้ก็จะยิ่งหวานขึ้นไปอีก

3. แตงโมก็มีเพศเหมือนกันนะ
หลายๆคนคงไม่รู้สินะว่าเกษตรกรนั้นก็ได้มีการแยกเพศของผลแตงโมด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าเป็นผู้ชาย ผลของแตงโมนั้นจะใหญ่กว่า มีผลที่ดูยาวกว่า และมีรสชาติที่ค่อนข้างจะจืดและน้ำเยอะ แต่ผ้าเป็นผู้หญิง ก็จะมีผลที่กลม และมีรสหวานมากกว่าผู้ชายด้วย

4. ใครว่าไซส์ไม่สำคัญ
ใหญ่ไปก็ไม่ดี เล็กไปก็ไม่โอเค ทางที่ดีคุณควรเลือกแตงโมที่มีขนาดกำลังพอดี ไม่เล็กหรือใหญ่มากเกินไป และจำไว้เลยว่า แตงโมนั้นควรจะมีน้ำหนักที่ดี ไม่ว่าผลของมันนั้นจะเล็กหรือใหญ่

5. ขั้วแตงโมก็สำคัญ
ขั้วของผลแตงโมนั้นก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ เพราะว่าแตงโมที่สุกเต็มที่แล้วนั้นขั้วของมันจะแห้ง และไม่เป็นสีเขียว เพราะถ้าคุณเห็นขั้วของแตงโมผลไหนเป็นสีเขียวล่ะก็ ทายได้เลยว่าแตงโมผลนั้นถูกเก็บเกี่ยวมาเร็วเกินไปและยังไม่สุกเต็มที่

รายการบล็อกของฉัน