เครือปลาสงแดง
ชื่ออื่น : เครือเจ็น, เครือซุด, เครือซุดแดง, ชัยสง, เครืออีโม้, เต่าไห้, เถาโก, เถายอดแดง, เถาวัลย์แดง, หัวขวาน, ปอเต่าไห้ , หุนน้ำ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ichnocarpus frutescens (L.) R. Br.
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ichnocarpus frutescens (L.) R. Br.
ชื่อวงศ์ : Apocynaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
เครือปลาสงแดง เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง ยาว 2-8 เมตร แตกกิ่งก้านมาก กิ่งอ่อนมีขนสั้นๆ เถาสีน้ำตาลแดง เถาอ่อนมีขนสีน้ำตาล ทุกส่วนมีน้ำยางขาว
ใบเครือปลาสงแดง เป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม แผ่นใบหนา เรียบ สีเขียวเข้ม มีขนตามเส้นใบ
ใบเครือปลาสงแดง เป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้าม แผ่นใบหนา เรียบ สีเขียวเข้ม มีขนตามเส้นใบ
*ใบรูปขอบขนานแกมใบหอก หรือรูปไข่แกมขอบขนาน กว้าง 2.5-4.5 ซม. ยาว 7-11 ซม. ปลายเรียวแหลม โคนรูปลิ่มถึงมน ขอบใบเรียบ หลังใบเกลี้ยง ท้องใบมีขนประปรายที่เส้นใบ เส้นใบหลัก 5-7 คู่ ก้านใบยาว 0.8-1.2 ซม. อาจพบขนหรือไม่มี
*ดอกเครือปลาสงแดง ดอกช่อแยกแขนง มีกลิ่นหอมเย็นอ่อนๆ ดอกมีขนาดเล็ก ออกที่ซอกใบ และปลายกิ่ง ดอกย่อยจำนวนมาก 11-80 ดอก ก้านดอกย่อยยาว 2-3 มม. มีขนสั้นหนานุ่ม ก้านช่อดอกยาว 0.3-4.2 ซม. มีขนสั้นหนานุ่ม กลีบดอกสีขาว หรือสีเหลืองนวล กลีบดอกโคนเชื่อมติดกันเป็นหลอด หลอดกลีบรูปถ้วย กว้าง 1.0-1.5 มม. ยาว 2.0-2.5 มม. ปลายแยก 5 กลีบ ปลายแฉกมน รูปไข่ กว้าง 1.5-2.0 มม. ยาว 2.0-2.5 มม. โดยด้านข้างของส่วนปลายกลีบจะยื่นยาวคล้ายหาง 2-3 มม. ขอบเป็นคลื่น มีขนอุยที่โคนแฉกด้านในและขนสั้นนุ่มตามขอบ ส่วนด้านนอกเกลี้ยง ทำให้มองเห็นขอบกลีบเป็นฝอยละเอียด
*กลีบดอกเรียงบิดเวียนขวา ใบประดับ 2 อัน รองรับช่อดอกย่อย รูปไข่ กว้าง 0.5 มม. ยาว 1.0-1.5 มม. ขอบเรียบ พบขนสีน้ำตาลแดงกระจายทั่วผิวด้านนอก ส่วนด้านในเกลี้ยง กลีบเลี้ยง หลอดกลีบรูปถ้วยสั้นๆ กว้าง 1.0-1.5 มม. ยาว 1.5 มม. ปลายแยกแฉกแหลม รูปไข่หรือคล้ายสามเหลี่ยม สีเขียว มีขนสั้นนุ่มหนาแน่นสีน้ำตาลแดง เกสรเพศผู้สีเหลือง ผิวเกลี้ยง อับเรณูยาว 1 มม. ติดที่ฐาน โคนมน ปลายเรียวแหลม ซึ่งแตะล้อมรอบ ก้านและยอดเกสรเพศเมีย
*ก้านชูอับเรณูยาว 2-3 มม. อยู่สูงจากโคนหลอดดอกประมาณ 1 มม. เกสรเพศเมีย รังไข่เหนือวงกลีบ เกิดจาก 2 คาร์เพล แต่ละคาร์เพลมี 15-35 ออวุล รังไข่มีขนสั้นนุ่มและใสที่ผิวด้านบน โคนเชื่อมกัน ปลายแยก ก้านเกสรเพศเมียยาว 1 มม. เกลี้ยง ยอดเกสรเพศเมียยาว 1 มม. เกลี้ยง สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน จานฐานดอก 5 อัน แยกกัน รูปไข่หรือคล้ายขวด ยาว 0.5-1.0 มม. โคนเชื่อมแตะรังไข่ ปลายมนหรือกลม เกลี้ยง สีขาวหรือขาวอมเหลือง
*ก้านชูอับเรณูยาว 2-3 มม. อยู่สูงจากโคนหลอดดอกประมาณ 1 มม. เกสรเพศเมีย รังไข่เหนือวงกลีบ เกิดจาก 2 คาร์เพล แต่ละคาร์เพลมี 15-35 ออวุล รังไข่มีขนสั้นนุ่มและใสที่ผิวด้านบน โคนเชื่อมกัน ปลายแยก ก้านเกสรเพศเมียยาว 1 มม. เกลี้ยง ยอดเกสรเพศเมียยาว 1 มม. เกลี้ยง สีขาวหรือสีเหลืองอ่อน จานฐานดอก 5 อัน แยกกัน รูปไข่หรือคล้ายขวด ยาว 0.5-1.0 มม. โคนเชื่อมแตะรังไข่ ปลายมนหรือกลม เกลี้ยง สีขาวหรือขาวอมเหลือง
*ผลเครือปลาสงแดง เป็นฝักคู่ รูปทรงกระบอก ปลายแหลม กว้าง 1.6-5 มิลลิเมตร ยาว 3-10.5 เซนติเมตร เมื่อฝักแห้งแตกตะเข็บเดียว เมล็ดสีน้ำตาล มีกระจุกขนสีขาวคล้ายเส้นไหมติดอยู่ที่ปลายเมล็ด
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ราก, ทั้งต้น, ใบ
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ราก, ทั้งต้น, ใบ
สรรพคุณตามตำรายาไทย :
ราก แก้เบาหวาน แก้อาหารไม่ย่อย แก้โรคผิวหนัง แก้อาการปวดเมื่อย
ทั้งต้น แก้วัณโรค แก้อาการเพ้อคลั่ง แก้ตาบอดกลางคืน แก้ลิ้นอักเสบ แก้อาการเลือดออกที่เหงือก แก้ไข้ ยาแก้ไอ แก้บิด แก้เนื้องอกในช่องท้อง แก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้ม้ามโต แก้หิด แก้หัด บรรเทาอาการปวดจากแมลงกัด แก้อาการชัก
ใบ แก้อาการปวดศีรษะ ช่วยป้องกันฟันผุ แก้ไข้ แก้บาดแผล แก้หิด
ทั้งต้น แก้วัณโรค แก้อาการเพ้อคลั่ง แก้ตาบอดกลางคืน แก้ลิ้นอักเสบ แก้อาการเลือดออกที่เหงือก แก้ไข้ ยาแก้ไอ แก้บิด แก้เนื้องอกในช่องท้อง แก้ปัสสาวะเป็นเลือด แก้ม้ามโต แก้หิด แก้หัด บรรเทาอาการปวดจากแมลงกัด แก้อาการชัก
ใบ แก้อาการปวดศีรษะ ช่วยป้องกันฟันผุ แก้ไข้ แก้บาดแผล แก้หิด