"ว่าน"เป็นคำที่ใช้เรียกนำหน้าชื่อต้นไม้โดยเฉพาะต้นไม้ที่ใช้ประโยชน์ทางด้านสมุนไพรและไม้
ประดับบางชนิด
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน ได้นิยามไว้ว่า "ว่าน คือพืชที่มีหัวบ้าง ที่ไม่มีหัวบ้าง ใช้เป็นยาบ้าง ใช้อยู่ยงคงกระพันบ้าง" เห็นได้ว่าความหมายตามพจนานุกรม ว่านคือพืชที่มีหัวหรือไม่มีหัวก็ได้ บางชนิดปลูกเพื่อใช้เป็นยาสมุนไพร เป็นเครื่องรางของขลัง ป้องกันอันตราย พิษสัตว์กัดต่อย ยาเบื่อเมา ยาสั่ง ยาเสพติด สามารถดับพิษร้ายให้หายได้
ว่านแต่ละชนิดมีคุณานุภาพบันดาลให้เกิดผล เกิดโชคลาภ ทำมาค้าขึ้น เงินทองไหลมาเทมา มีคนเคารพนับถือ มีความเชื่อกันว่าการปลูกเลี้ยงว่าน ถ้าทำให้ถูกต้องตามพิธีการ ให้ความสำคัญว่าว่านเป็นของศักสิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์ ก็ต้องมีพิธีมากกว่าการปลูกเลี้ยงธรรมดา เพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ปลูกเลี้ยงและเป็นการเพิ่มฤทธิ์ธานุภาพ ให้แก่ว่าน เช่น เวลารดน้ำต้องเศกคาถากำกับเป็นบทเป็นตอนต่างกันไป สามจบ เจ็ดจบหรือตามอายุของผู้ปลูกเลี้ยงแล้วแต่ชนิดของว่าน การขุดก็ต้องทำในวัน เดือน ต่างๆ กัน ทั้งข้างขึ้น ข้างแรม เช่น การขุดเก็บว่านมักเลือกวันอังคาร วันใดวันหนึ่งในดือนสิบสองหรือไม่เกินวันพุธข้างขึ้นของเดือนอ้าย เวลาขุดใช้มือตบดินใกล้กอว่านหรือต้นว่าน แล้วเศกคาถาเรียกว่านไปตบดินไปจนจบคาถา จึงคอยขุดนำหัวว่านขึ้นมา
ตำราพิชัยสงครามทุกเล่มระบุว่าว่าน คือสุดยอดคงกระพัน โดยธรรมชาติ นักรบโบราณนิยมการอาบว่าน เคี้ยวว่าน โบราณจารย์ในอดีตล้วน ปลูกว่าน เลี้ยงว่าน เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ คนไทยที่เป็นนักสู้อยู่บนหลังม้า หรือถือดาบอยู่บนดินต่างชำระร่างกายด้วยว่าน เคี้ยวว่านหรือสวมใส่ผ้าประเจียดและรัดแขนด้วนว่านเช่นกัน
"ว่านโพง "ว่านโพงนี้ชาวบ้านแถบอีสานเรียกว่านผีปอบ ซึ่งขึ้นตามป่า แถวภาคอีสาน โดยเฉพาะชายแดนที่ติดกับเขมร ว่านชนิดนี้คนสมัยก่อนเชื่อกันว่ามีวิญญาณร้ายสิงอยู่ ว่านโพงนี้ชอบกินเลือดสดๆ หมอธรรมที่เป็นฆราวาสชอบนำว่านชนิดนี้มาเลี้ยงไว้เพื่อใช้ให้ทำงานต่างๆให้ โดยเฉพาะการสั่งให้ไปทำร้ายคู่อริหรือฝ่ายตรงข้าม ผู้ที่จะเลี้ยงว่านชนิดนี้ได้ต้องเป็นผู้ที่มีวิชาอาคมแกกล้าเข้าขั้นทีเดียว จึงจะสามารถสะกดเหล่าดวงวิญญาณร้ายที่สิงอยู่ในว่านให้อยู่ภายใต้คำสั่งได้ หากมิฉะนั้นดวงวิญญารณเหล่านั้นที่อยู่ในว่านโพงจะก็จะทำร้ายและกินผู้เลี้ยงเป็นอาหารแทน ถ้าบ่สามารถสะกดดวงวิญญาณได้ ว่ากันว่าตอนกลางคืนหัวว่านที่แก่ได้ที่จะ ออกหากินกบกินเขียด จะเห็นเป็นแสงสีแดงกล่ำปนแสงสีเขียว และรูปร่างหน้าตา เหมือนคนที่เลี้ยงว่าน
คลิปประกอบบทความ
ว่านชนิดนี้ ทางพฤษศาสตร์ก็คือ ว่านหนุมานนั่งแท่น แต่ถ้าทางไสยศาสตร์ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) จะแยกตามภูติที่อยู่ในต้นว่าน ว่าเป็น ว่านโพงชนิดไหน เช่น ว่านโพงกินเหล็ก หรือว่านโพงกินเลือด ผู้ที่จะเลี้ยงว่านพวกนี้ มักจะเรียนไสยศาสตร์มาด้วย จึงสามารถสัมผัสพลังงานเหล่านั้นได้และจะเป็นว่านโพง เพียงบางต้นเท่านั้น ไม่ใช่ ว่านหนุมานนั่งแท่น ทุกต้นจะเป็น ว่านโพงหมด