ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ต้นบุกคางคกออกดอกคล้ายพระพุทธรูป

 ชาวบ้านตื่นตะลึงจนตาเหลือก!!!!! ต้นบุกคางคกออกดอกคล้ายพระพุทธรูป
ชาวบ้านกำแพงเพชรฮือฮาดอกไม้ประหลาดคล้ายพระพุทธรูป แห่เดินขบวนนำพวงมาลัย ธูปเทียน
ไปกราบไหว้บูชาขอเลขเด็ดจาก"เจ้าพ่อบุกคางคก"

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกำแพงเพชรได้รับแจ้งจากนางวารี ฤทธิ์อำไพ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลคลองลานพัฒนา อำเภอคลองลาน ว่าพบดอกไม้ประหลาดที่บ้านใหม่ศรีสุวรรณ์ หมู่ 25 ตำบลคลองน้ำไหล จึงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างมามุงดูดอกไม้ประหลาดด้วยความสนใจ โดยมีพวงมาลัยและธูปปักอยู่เป็นจำนวนมาก
นางเฉลา ชาววังฆ้อง อายุ 50 ปี เผยว่า ตนมีอาชีพทำไร่ทำนา โดยบ้านดังกล่าวเป็นของนางแดง ชาววังฆ้อง มารดาของตน อายุ 78 ปี  ส่วนดอกไม้ลักษณะประหลาดที่เห็นเกิดจากต้นบุกคางคกที่อยู่บนเขาที่ชาวบ้านนำไปแกงหรือต้มกินได้ ซึ่งได้มีการนำมาปลูกไว้ใกล้บ่อน้ำข้างบ้านหลายปีแล้ว ซึ่งปกติจะออกดอกเหมือนต้นบุกทั่วไป แต่เมื่อ 2-3 วันก่อน ต้นบุกคางคกเพิ่งจะออกดอกมาและพบว่ามีรูปร่างประหลาดคล้ายพระพุทธรูป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับดอกไม้ประหลาดนี้งอกเพิ่มจากส่วนลำต้นบุกคางคกสูงจากพื้นดินประมาณ 40 ซม. ส่วนล่างเป็นลำต้นสีเขียว ลักษณะบานออกเป็นพานพุ่มสีม่วงเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 ซม. ซ้อนด้วยช่อสีเหลืองอ่อน โดยมีพุ่มคล้ายกับพระพุทธรูปสีม่วงเข้มอยู่ด้านบนสุด ซึ่งนับว่าแปลกประหลาดแต่สวยงามมากซึ่งไม่เคยพบเห็นมาก่อน  ส่วนชาวบ้านที่มาดูความแปลกประหลาดต่างวิพากษณ์วิจารณ์พร้อมกับนำพวงมาลัย และธูปมากราบไหว้บูชาขอโชคลาภตามธรรมเนียม
บุกคางคก หรือ STANLEY" S WATER-AMORPHOPHALLUS  CAM-PANULATUS BL. EX DECNE อยู่ในวงศ์ ARACEAE เป็นไม้ล้มลุก งอกงามดีในช่วงฤดูฝนและตายในต้นฤดูหนาว  แต่จะมีหัวฝังอยู่ใต้ดิน เมื่อมีฝนตกลงมาจะงอกงามขึ้นอีกเป็นวัฏจักรทุกๆปี ก้านใบยาวได้ 150-180 ซม. อวบน้ำ ใบกางออกคล้ายร่ม ก้านใบมีลายสีเขียวและน้ำตาล ดอกสีแดง "ผล" เนื้อนุ่ม สีแดง ขยายพันธุ์ด้วยหัว มีชื่อเรียก ตามท้องถิ่นอีกเยอะ เช่น มันชูรัน บุกบ้าน และอีลอก เป็นต้น
บุกคางคก จัดเป็นพืชโบราณชนิดหนึ่งที่พบขึ้นทุกภาคของประเทศไทย โดยในทางอาหารชาวชนบทสมัยก่อนนิยมเอาต้นอ่อนปอกเปลือกออก และใบอ่อนปรุงเป็นอาหารคล้ายๆ กับบอน ส่วนใหญ่ทำแกงส้ม แกงเลียง และทำห่อหมก รสชาติอร่อยมาก แต่ก่อนนำไปปรุงเป็นอาหารจะต้องเอาไปต้มก่อน โดยใส่ลงไปตอนที่น้ำกำลังเดือดเพื่อให้หมดพิษคล้ายกับหัวกลอยจะได้ไม่มีอาการคันเมื่อปรุงเป็นอาหารรับประทาน ปัจจุบันไม่นิยมรับประทานกันแล้ว เนื่องจากมีขั้นตอนก่อนปรุงอาหารยุ่งยากเกินไป
ในทางสมุนไพร ตำรายาแผนไทยระบุว่า หัวมีสารจำพวกแป้งชนิด GLUCOMANNAN ซึ่งมีปริมาณและชนิดแตกต่างกันไป แล้วแต่ ชนิดของบุก หรือ "บุกคางคก" พบว่าสามารถลดระดับ "คอเลสเทอรอล" ในสัตว์ทดลอง และ ใช้กับผู้ป่วย "โรคเบาหวาน" เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สารสกัด "แอลกอฮอล์" จากหัวสามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อ "วัณโรค" ในหลอดแก้วด้วย ตำรายาพื้นบ้าน หัว ใช้กัดเสมหะ กัดเถาดานและเลือดก้อน หรือใช้หุงเป็นน้ำมันใส่บาดแผลกัดฝ้ากัดหนองได้

รายการบล็อกของฉัน