ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565

มะเขือเทศบุชสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบในออสเตรเลีย


มะเขือเทศบุชสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบในออสเตรเลีย


สปีชีส์ที่เพิ่งค้นพบนี้เป็นของSolanumซึ่งเป็นพืชดอกขนาดใหญ่และหลากหลายในตระกูล Nightshade Solanaceae


มะเขือเปราะเป็นสกุลที่อุดมด้วยสปีชีส์มากที่สุดในวงศ์ Solanaceaeและเป็นสกุลที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มพืชดอก (พืชดอก)

ประมาณ 1,400 สายพันธุ์ที่ยอมรับกระจายอยู่ในทุกทวีปยกเว้นแอนตาร์กติกา

Solanum ประกอบด้วยพืชอาหารสามชนิดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจสูง ได้แก่ มันฝรั่ง มะเขือเทศ และมะเขือม่วง

Tanisha Williams นักพฤกษศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Bucknell กล่าวว่า "ความอุดมสมบูรณ์ของสกุลส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเขตร้อนของอเมริกาใต้ในเขตร้อนชื้นของอเมซอน แต่จุดอื่นๆ ได้แก่ แอฟริกาและออสเตรเลีย"

“ Solanumมักเป็นที่รู้จักจากดอกไม้ห้าแฉกที่มีกลีบเลี้ยงและกลีบผสมกัน เกสรตัวผู้ 5 อัน รังไข่ 2 ห้องที่เหนือกว่า อับเรณูเป็นรูปวงรี และในหลายชนิดมีขนแตกกิ่งและ/หรือมีหนาม”

“พืชสกุลนี้มีความหลากหลายอย่างมากทั้งในลักษณะของพืชและการสืบพันธุ์ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในลักษณะของดอกไม้และผลไม้) นิเวศวิทยา และชีววิทยาการสืบพันธุ์”

สายพันธุ์ Solanumที่เพิ่งค้นพบนี้เป็นไม้พุ่มสีเขียวอ่อนยืนต้นสูงถึง 30 ซม. (11.8 นิ้ว)

มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าSolanum scalarium (ชื่อสามัญคือ Garrarnawun Bush Tomato) สายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักมากจากแหล่งหนึ่งในอุทยานแห่งชาติ Judbarra/Gregory ใน Northern Territory ของออสเตรเลีย

นักวิจัย กล่าวว่า " Solanum scalariumเป็นสมาชิกของ ' Kimberley dioecious clade ' ที่ท้าทายทางอนุกรมวิธานในออสเตรเลีย และแตกต่างจากสายพันธุ์อื่น ๆ ในกลุ่มในการแพร่กระจายนิสัยที่เสื่อมโทรมและราชิดอกไม้ตัวผู้ที่เต็มไปด้วยหนามที่เด่นชัด" นักวิจัยกล่าว

“ชื่อสามัญ Garrarnawun บุชมะเขือเทศถูกเสนอเพื่อรับรู้ถึงจุดชมวิวที่ไซต์ในอุทยานแห่งชาติ Judbarra/Gregory ซึ่งเป็นสถานที่นัดพบแบบดั้งเดิมของชาว Wardaman และ Nungali-Ngaliwurru ซึ่งมีที่ดินทับซ้อนกันในบริเวณนี้”

ปัจจุบัน Solanum scalariumเป็นที่รู้จักจากประชากรเพียง 50-100 คน

สปีชีส์นี้เกิดขึ้นบนโครงร่างดินสีชมพู พื้นหินทราย และหินที่ผ่าออก




“ชีววิทยาการผสมเกสรของดอกไม้ชนิดนี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่เช่นเดียวกับพืชสกุลอื่นๆ ในออสเตรเลีย ดอกไม้น่าจะถูกผสมเกสรโดยผึ้งในสกุลXylocopaและAmegillaและมีแนวโน้มที่จะให้คุณค่าทางอาหารแก่ละอองเรณูในระดับสูง” นักวิทยาศาสตร์กล่าว

“ในขณะที่เราคาดว่าจะพบพื้นที่มากขึ้นสำหรับSolanum scalariumเนื่องจากความชุกของสิ่งที่คล้ายกันและเข้าถึงได้น้อย – โผล่ขึ้นมาในพื้นที่ใกล้เคียงของการรวบรวมชนิด แต่ปัจจุบันเป็นที่รู้จักจากไซต์รวบรวมที่ได้รับการคุ้มครองแห่งหนึ่งใน Judbarra / Gregory National พาร์ค” พวกเขากล่าวเสริม

“ตามหมวดหมู่บัญชีแดงของ IUCN สปีชีส์ควรได้รับการพิจารณาว่าขาดข้อมูล ”

วันศุกร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ต้นคำขาว ...กุหลาบพันปีป่า

เป็นคนชอบดอกไม้และต้นไม้ช่วงนี้ก็เลยอยากจะหา...บทความมา
ช่วงนี้มีบทความมากมายเกี่ยวกับต้นไม้ก็เลยอยากนำเสนอต้นไม้ดอกไม้แปลกๆเช่นต้นไม้ที่เราไม่เคยได้ยินชื่อหรือว่าชื่อแปลกๆนะครับตัวอย่างวันนี้ที่เอามานำเสนอคือต้นคำขาว ...กุหลาบพันปีป่า

คำขาว หรือ กุหลาบพันปีป่า (อังกฤษ: Westland's rhododendron; ชื่อวิทยาศาสตร์: Rhododendron moulmainense) เป็นไม้ประเภทกุหลาบพันปีชนิดหนึ่ง ในวงศ์กุหลาบป่า (Ericaceae)

เป็นไม้พุ่มหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงลำต้นตั้งแต่ 2-8 เมตร ใบเป็นแบบใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับ เป็นกลุ่มห่าง ๆ กลุ่มละ 3-6 ใบ รูปรีแกมรูปหอก กว้าง 3-6 เซนติเมตร ยาว 7-14 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ดอกมีสีขาว ออกเป็นช่อ ตามปลายกิ่งและซอกใบ ช่อละ 3-5 ดอก

ขนาดดอกบานเต็มที่ กว้างถึง 6 เซนติเมตร กลีบดอกเชื่อมติดกันรูปกรวย ปลายแยกแผ่เป็น 5 กลีบ บริเวณโคนกลีบมีประสีเหลืองอ่อนแต้มเป็นทาง เกสรเพศผู้มี 10 อัน ยาวไม่เท่ากัน โคนก้านชูอับเรณูมีขนสีขาว รังไข่รูปทรงกระบอก

ผลเป็นรูปทรงกระบอก มี 5 พู ขนาด 3-4 เซนติเมตร ปลายแหลมยาว ผลแก่แตกเป็น 5 เสี่ยง เมล็ดแบน มีขนาดเล็ก มีจำนวนมาก มีปีกบางใสล้อมรอบ

คำขาว แพร่กระจายพันธุ์ตามป่าดิบเขา ที่ค่อนข้างโปร่ง สูงจากระดับน้ำทะเล 950-2,200 เมตร ออกดอกระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม พบตั้งแต่ทางตอนใต้ของจีน, พม่า, มาเลเซีย, ภาคใต้ของไทยจนถึงอินโดนีเซีย, ลาว, เวียดนาม, กัมพูชา และฮ่องกง

คำขาว

ดอกคำขาว

คำขาว สามารถนำมาปลูกเป็นไม้ดอก ไม้ประดับได้ โดยขึ้นได้ดีในที่สูง มีความชื้นพอประมาณ และชอบแสงแดดตลอดทั้งวัน

กุหลาบเมาะลำเลิง..ชื่อเป็นดอกกุหลาบแต่ดูแล้วไม่เหมือนดอกกุหลาบเลยนะ..

กุหลาบเมาะลำเลิง

กุหลาบเมาะลำเลิง..ชื่อเป็นดอกกุหลาบแต่ดูแล้วไม่เหมือนดอกกุหลาบเลยนะ..

สปีชีส์ของพืช

กุหลาบเมาะลำเลิง หรือ กุหลาบเทียม (อังกฤษ: Rose cactus; ชื่อวิทยาศาสตร์: Pereskia grandifolia Haw) เป็นพืชพื้นเมืองของบราซิลทางตะวันออกเฉียงเหนือ ใช้เป็นพืชสมุนไพร และใบรับประทานได้

แม้ว่าจะเป็นพืชกลุ่มเดียวกับกระบองเพชร แต่แตกกิ่งเป็นพุ่มเล็ก ๆ สูง 2-5 เมตร มีลำต้นสีน้ำตาลอมเทาหนา 20 เซนติเมตร หนามสีดำหรือน้ำตาล ใบยาว 9-23 เซนติเมตร ช่อดอกเกิดที่ปลายกิ่ง มี 10-15 ดอก ดอกมีรูปร่างคล้ายกุหลาบ

ข้อมูลเบื้องต้น กุหลาบเมาะลำเลิง, การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ ...

ลำต้นและหนาม

ดอก

กุหลาบเมาะลำเลิงมีหลายพันธุ์ พันธุ์ grandifolia มีริ้วประดับสีเขียวและดอกสีชมพู เป็นไม้พื้นเมืองของบราซิลตะวันออกและแพร่หลายไปทั่วเขตร้อนของทวีปอเมริกา พันธุ์ violacea มีสีม่วงอมชมพูหรือสีม่วง เป็นพืชพื้นเมืองของเอสปิริโต ซันโต และมินาส เฆราอิส

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ทามาริสก์ ต้นไม้แปลกทนแล้งเขียวชอุ่มตลอดปีขึ้นได้ดีในดินเค็ม..ทามาริสก์เป็นพืชที่เทพเจ้าอพอลโล ทรงชื่นชอบ

ทามาริสก์ ต้นไม้แปลกทนแล้งเขียวชอุ่มตลอดปีขึ้นได้ดีในดินเค็ม..ทามาริสก์เป็นพืชที่เทพเจ้าอพอลโล ทรงชื่นชอบ

พืชชนิดนี้เหมาะสำหรับเอามาปลูกในดินเค็มมากๆและที่แห้งแล้งก็ดีนะครับเพราะว่ามันเป็นพืชที่ไม่ต้องดูแลอะไรมาก

แถมยังมีดอกสวยงามและปลูกเป็นแนวป้องกันลมได้ดีถ้าลองเอามาปลูกในประเทศไทยที่แล้งดินเค็มอาจจะขึ้นก็ได้นะครับ

(อังกฤษ: Tamarix ,tamarisk, salt cedar; อาหรับ: الأثل อ่านว่า อัลอัซล์) มี 50- 60 สายพันธุ์เป็นพืชในตระกูล Tamaricaceae เป็นพืชท้องถิ่นในเขตแห้งแล้งของทวีปยุโรป และแอฟริกา ทามาริสก์จะเขียวชอุ่มตลอดปี เป็นพืชผลัดใบและเป็นไม้พุ่ม 

มีความสูงตั้งแต่ 1-18 เมตร Tamarix aphylla จะเขียวชอุ่มอยู่เสมอและอาจสูงถึง 8 เมตร โดยปกติจะเจริญเติบโตในดินเค็ม มีความอดทนต่อภาวะเป็นพิษของความเค็มถึง 15000 ppm และยังอดทนต่อความเป็นด่าง มีลักษณะแผ่กิ่งก้านเรียวยาว มีใบเขียวอมเทา เปลือกของกิ่งในขณะเป็นต้นอ่อนมีลักษณะเกลี้ยงเรียบ

สีน้ำตาลแดง เมื่อตอนมีอายุช่วงสุดท้าย เปลือกไม้จะเป็นร่องมีรอยย่น และเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลม่วง มีใบขนาดเท่า ๆ กัน ยาวประมาณ 1-2 มิลลิเมตร และใบจะทับซ้อนกันตามความยาวของก้าน มักจะมีน้ำเกลือไหลออกมาห่อหุ้มลำต้นอยู่เสมอ จะออกดอกอย่างหนาแน่นตรงปลายรวงของกิ่งยาว 5-10 เซนติเมตร

ซึ่งจะออกดอกในเดือนมีนาคม ถึง กันยายน แต่บางสายพันธุ์มีแนวโน้มจะออกดอกในช่วงฤดูหนาว

การใช้ประโยชน์
ทามาริสก์ใช้เป็นพุ่มไม้ประดับ เป็นสิ่งป้องกันลม และใช้เป็นร่มเงาบังแดด ในประเทศจีน มีโครงการปลูกทามาริสก์ เพื่อทำให้พื้นที่เขตทะเลทรายเขียวชอุ่ม ใช้ในการทำปุ๋ยหมัก

ประวัติศาสตร์ความเชื่อ
กุรอาน 34;16 ระบุว่า "แต่พวกเขาผินหลังให้ (ไม่ยอมรับศรัทธา) เราจึงส่งอุทกภัยทำลายล้างพวกเขา แล้วเราได้เปลี่ยนสวนทั้งสองของพวกเขาให้เป็นสองสวนที่มีสิ่งบริโภคอันขมขื่นและมีต้นทามาริสก์ (ต้นอะซัล) รวมทั้งมีผลพุทราเพียงเล็กน้อย"

ปฐมกาล 21;33 "อับราฮัมปลูกต้นทามาริสก์ไว้ที่เบเออร์เชบา (Beer-sheba) และนมัสการออกพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้านิรันดร์ที่นั่น"

ในสารานุกรมเทพนิยายของ ละรูส (Larousse) ทามาริสก์เป็นพืชที่เทพเจ้าอพอลโล ทรงชื่นชอบ

มาร์ชแมลโลว์พืชแปลกๆ สรรพคุณ รากใช้เป็นยารักษาโรคในปากและน้ำคั้นจากรากมาผสมทำเป็นขนมได้อีก

มาร์ชแมลโลว์พืชแปลกๆ สรรพคุณ รากใช้เป็นยารักษาโรคในปากและน้ำคั้นจากรากมาผสมทำเป็นขนมได้อีก

มาร์ชแมลโลว์  นี่ก็ถือว่าเป็นพืชแปลกๆ
อีกชนิดหนึ่งนะครับเป็นทั้งพืชสมุนไพรและพืชที่ใช้เอามาผสมเป็นขนมโดยเฉพาะใช้รากอย่างเดียวนะครับแปลกมากๆ

ตกลงเป็นทั้งสมุนไพรหรือว่าจะจะเอาน้ำคั้นจากรากมาผสมไข่น้ำตาลเป็นขนมสุดอร่อยก็ได้นะครับเท่ากับพืชนี้มีประโยชน์ได้ 2 ทางเยี่ยมจริงๆ

มาร์ชแมลโลว์ สรรพคุณ
👉🏿รากใช้เป็นยารักษาโรคในปากและอาการเจ็บคอ

👉🏿น้ำคั้นจากรากตีผสมกับไข่และน้ำตาลจนเป็นก้อนโฟมอยู่ตัว ใช้เป็นขนม 

มาร์ชแมลโลว์ (ชื่อวิทยาศาสตร์: Althaea officinalis, เปอร์เซีย: خطمی، ختمی, อาหรับ: ختمية الطبية، خبيز) เป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในยุโรป กระจายพันธุ์จนถึงเอเชียตะวันตกและแอฟริกาเหนือ รากใช้เป็นยารักษาโรคในปากและอาการเจ็บคอ น้ำคั้นจากรากตีผสมกับไข่และน้ำตาลจนเป็นก้อนโฟมอยู่ตัว ใช้เป็นขนม 

ข้อมูลเบื้องต้น ต้นมาร์ชแมลโลว์, การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์

สารเคมีที่พบในพืชชนิดนี้ ได้แก่ altheahexacosanyl lactone (n-hexacos-2-enyl-1,5-olide), 2β-hydroxycalamene (altheacalamene) และ altheacoumarin glucoside (5,6-dihydroxycoumarin-5-dodecanoate-6β-D-glucopyranoside),รวมทั้ง lauric acid, β-sitosterol และ lanosterol

หลุมพอทะเลชื่อต้นไม้แปลกไม้พืชดอกในวงศ์ถั่ว มาจากประเทศแทนซาเนียและประเทศมาดากัสการ์

หลุมพอทะเลชื่อต้นไม้แปลกไม้พืชดอกในวงศ์ถั่ว มาจากประเทศแทนซาเนียและประเทศมาดากัสการ์

เรื่องชื่อของต้นไม้บางทีเราก็ไม่รู้จักว่าต้นไม้เหล่านั้นหรือที่เราเคยเห็นนั้นมีชื่ออะไรบ้าง

วันนี้เราจะมานำเสนอชื่อต้นไม้หรือต้นไม้แปลกๆแต่ก็คงไม่แปลกนะครับถ้าเรารู้ที่มาที่ไปของต้นไม้นี้...มันชื่อว่าต้นหลุมพอทะเลพืชดอกในวงศ์ถั่ว มีถิ่นกำเนิดในอินโดแปซิฟิก มีการกระจายพันธุ์จากประเทศแทนซาเนียและประเทศมาดากัสการ์ แค่นี้เราก็คิดว่าน่าจะเข้าข่ายพืชต้นไม้แปลกๆได้แล้วนะครับ

หลุมพอทะเล หรือ ประดู่ทะเล (ชื่อวิทยาศาสตร์: Intsia bijuga) เป็นต้นไม้พืชดอกในวงศ์ถั่ว มีถิ่นกำเนิดในอินโดแปซิฟิก มีการกระจายพันธุ์จากประเทศแทนซาเนียและประเทศมาดากัสการ์ไปทางตะวันออกผ่านประเทศอินเดียและรัฐควีนส์แลนด์, ประเทศออสเตรเลียถึงหมู่เกาะแปซิฟิกของประเทศซามัว ต้นสูงได้หลายเมตร พบในป่าชายเลน

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

หลุมพอทะเลเป็นไม้ยืนต้น อาจจะ สูง 20–40 เมตร เรือนยอดเป็นพุ่มทรงสูงถึงแผ่กว้าง เปลือกสีเทาแกมเหลืองถึงสีน้ำตาลเทา เรียบหรือแตกสะเก็ด ใบย่อยเรียงเป็นคู่ แผ่นใบรูปรีถึงรูปไข่กลับ กว้าง 4–10 เซนติเมตร ยาว 5–18 เซนติเมตร

ดอกออกเป็นช่อแยกแขนงตามง่ามใบและปลายกิ่ง มีสีขาวก่อนเปลี่ยนเป็นสีชมพูและแดงในเวลาต่อมา เส้นผ่านศูนย์กลาง 2–2.5 เซนติเมตร ผลแบน รูปขอบขนาน ผิวเกลี้ยง กว้าง 4–5 เซนติเมตร ยาว 10–25 เซนติเมตร แตกเมื่อแก่ มี 4–8 เมล็ด เมล็ดสีน้ำตาลเข้ม รูปไข่ ปลายมนโคนตัด กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว 2.5–3 เซนติเมตร

การใช้ประโยชน์

เปลือกและใบของใช้เป็นยาแผนโบราณ ไม้ท่อนในปาปัวนิวกินีและนิวซีแลนด์เรียกว่า กวิลา (ตอกปีซิน: kwila) เป็นไม้ที่ทนทานและกันปลวกได้ดี ทำให้เป็นวัสดุที่มีมูลค่าสูง ใช้สำหรับการปูพื้นและการใช้งานอื่น ๆ เนื้อไม้ยังสามารถใช้สกัดสีย้อม ไม้อาจมีจุดสีทองแทรกในเนื้อซึ่งน่าดึงดูดสำหรับผู้บริโภคบางกลุ่ม เนื่องจากมีการตัดไม้เป็นจำนวนมาก ทำให้ใกล้สูญพันธุ์ในหลายพื้นที่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการซื้อไม้เป็นจำนวนมากสำหรับตกแต่งสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าไม้รายใหญ่ที่สุด ในตลาดสหรัฐอเมริกาและยุโรปเป็นไม้ใช้สำหรับปูพื้น ซึ่งโดยทั่วไปจะขายโดยใช้ชื่อต่างกัน โรงเลื่อยที่ทำการตัดไม้มีทั้งที่ได้รับอนุญาตและไม่ได้รับใบอนุญาต กรีนพีซอ้างว่าในอัตราปัจจุบันของการทำไม้ ต้นหลุมพอทะเลจะถูกตัดจนหมดภายใน 35 ปี

สัญลักษณ์

หลุมพอทะเล เป็นต้นไม้สัญลักษณ์อย่างเป็นทางการของดินแดนกวมของสหรัฐ รู้จักกันในชื่ออิฟิต (ชามอร์โร: ifit) ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สองไม่มีความอุดมสมบูรณ์ของไม้ชนิดนี้อีกต่อไปบนเกาะ การตัดต้นอิฟิตที่มีชีวิตบนเกาะกวมถือเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เนื้อไม้ยังคงเป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับช่างแกะสลักในท้องถิ่น

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ส้มมุด หรือชื่อมะมุด มะม่วงป่าหรือมาแซอูแต พืชสารพัดประโยชน์


ส้มมุด หรือชื่อมะมุด มะม่วงป่าหรือมาแซอูแต พืชสารพัดประโยชน์

น้ำยางใช้ในการสักผิวหนัง เพื่อให้รอยสักติดลึก


สปีชีส์ของพืช ส้มมุด 

(ชื่อวิทยาศาสตร์: Mangifera foetida) เป็นพืชในสกุลเดียวกับมะม่วง เป็นผลไม้พื้นเมืองของภาคใต้ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์

 และเวียดนาม กระบี่เรียกว่า ส้มมุดหรือมะมุด นราธิวาสเรียกว่า มะม่วงป่าหรือมาแซอูแต เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ ใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม เรียบเป็นมัน ดอกเป็นดอกช่อ สีชมพูอมแดง หอมเย็น

เปลือกต้นแตกเป็นสะเก็ดเปลือกนอกสีน้ำตาลคล้ำ เปลือกในสีน้ำตาลแดง ผลอ่อนสีเขียวเข้ม ผลสุกสีเหลืองแกมเขียว เมื่ออ่อน เนื้อสีขาวเช่นเดียวกับมะม่วง แต่เปรี้ยวกว่า เนื้อแน่น เหนียวกว่า สุกแล้วเนื้อสีเหลือง กลิ่นแรงมาก ทำให้เป็นผลไม้ที่ถูกห้ามนำขึ้นรถโดยสารหรือห้องประชุม

ข้อมูลเบื้องต้น ส้มมุด, สถานะการอนุรักษ์ ...



ส้มมุดเป็นผลไม้กินสด เนื้อผลรับประทานได้ มีกลิ่นขี้ไต้ และนำมาปรุงรสเปรี้ยวในอาหาร เช่น น้ำพริก นำมากินเป็นผักแกล้ม นำมายำกับปลาใส่มะพร้าวคั่ว หรือใส่ในแกงส้ม แกงเหลือง 


ผลดิบใช้เป็นผักหรือดองโดยเฉพาะในกาลีมันตันตะวันออกนิยมนำไปใช้แทนมะขาม ในมาเลเซียใช้ทำน้ำพริกและนำไปดอง ชาวโอรังอัซลีในคาบสมุทรมลายูใช้น้ำยางในการสักผิวหนัง

เพื่อให้รอยสักติดลึก ใบใช้เป็นยาลดไข้ เมล็ดใช้แก้โรคติดเชื้อราบางชนิด ผลดิบมียางซึ่งทำให้ระคายเคืองในปากและริมฝีปาก ผลสุกมียางเฉพาะที่เปลือก

คลิปวีดีโอประกอบบทความ ดูแล้วก็แปลภาษาเอาเอง

รายการบล็อกของฉัน