ต้นปรงโบราณในอังกฤษออกดอกทั้งเพศผู้และเพศเมียเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ล้านปี
ต้นปรงสายพันธุ์โบราณ 2 ต้นที่สวนพฤกษศาสตร์ Ventnor บนเกาะ Isle of Wight ในประเทศอังกฤษได้ออกดอกเป็นเพศผู้และเพศเมีย (คนละต้น) เป็นครั้งแรกในรอบ 60 ล้านปี นักพฤกษศาสตร์กล่าวว่านี่เป็นสัญญาณบอกชัดถึงสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ภาวะโลกร้อน
ปรงสายพันธุ์ Cycas เป็นพืชดึกดำบรรพ์สายพันธุ์ที่เคยครอบครองโลกในยุค 280 ล้านปีก่อน ปัจจุบันพบมากในแถบเส้นศูนย์สูตร พืชในสกุลนี้มีลำต้นเตี้ยๆเป็นรูปทรงกระบอกที่ล้อมรอบด้วยฐานก้านใบ ใบออกเป็นกระจุกที่ยอดของลำต้น มีดอกหรืออวัยวะสืบพันธุ์แยกเพศอยู่กันคนละต้นเรียกว่าโคน (Cone) ดอกเพศผู้เป็นช่อแน่นทรงกระบอกยาวปลายยอดเป็นทรงกรวย ส่วนดอกเพศเมียแผ่ออกเป็นแผ่นคล้ายกาบ
ต้นปรงในยุคโบราณเคยอาศัยอยู่ในบริเวณที่เป็นประเทศอังกฤษในปัจจุบันเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน มีการพบฟอสซิลของต้นไม้ชนิดนี้ในชั้นหินยุคจูราสสิคกระจัดกระจายอยู่ตั้งแต่บริเวณเกาะ Isle of Wight ถึงแถบชายฝั่งเขต Dorset ซึ่งในยุคนั้นสภาพอากาศของโลกมีระดับคาร์บอนไดออกไซด์สูง
สวนพฤกษศาสตร์ Ventnor บนเกาะ Isle of Wight ซึ่งมีอุณหภูมิสูงกว่าบนเกาะใหญ่ราว 5 องศาเซลเซียสได้เริ่มทดลองปลูกต้นปรงสายพันธุ์ Cycas เมื่อราว 15 ปีก่อน ซึ่งมันไม่เพียงแต่รอดชีวิตผ่านฤดูหนาวมาได้ แต่ยังแตกใบเจริญเติบโต เมื่อ 5 ปีที่แล้วมีปรงต้นหนึ่งออกดอกเพศผู้ และในปีนี้พวกมันได้ออกดอกเพศผู้และเพศเมียในเวลาเดียวกัน
“นี่เป็นครั้งแรกที่ต้นปรง Cycas ออกดอกทั้งเพศผู้และเพศเมียในประเทศอังกฤษนับตั้งแต่เมื่อ 60 ล้านปีที่แล้ว” Chris Kidd ผู้ดูแลที่สวนพฤกษศาสตร์ Ventnor กล่าว “มันเป็นข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนว่าฤดูร้อนที่ร้อนจัดและฤดูหนาวที่หนาวน้อยลงทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น”
Kidd บอกว่าคลื่นความร้อนเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วและอูณหภูมิที่สูงจนทำลายสถิติในปีนี้เป็นสาเหตุให้ต้นปรงออกดอก โดยมีฤดูหนาวที่ไม่หนาวจัดเป็นตัวช่วยเสริม เขายังบอกว่าจากข้อมูลที่บันทึกไว้ของสวนพฤกษศาสตร์พบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยที่สูงที่สุดในเดือนมกราคมของเมื่อ 100 ปีก่อนยังต่ำกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดในเดือนเดียวกันของปัจจุบัน
“มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวระยะสั้น แต่เป็นสภาพอากาศอบอุ่นในระยะยาวที่ทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น” Kidd กล่าว “เมื่อ 30 ปีก่อนเราไม่สามารถปลูกพืชชนิดนี้ได้ แต่ตอนนี้มันเติบโตอยู่ในสวนตามธรรมชาติมาได้ 15 ปีแล้ว”
นอกจากนี้ Kidd ยังได้บอกว่าสวนพฤกษศาสตร์ Ventnor เพิ่งสามารถปลูกพืชชนิดอื่นที่มักพบได้ในเขตภูมิอากาศร้อน รวมทั้งต้นเจอราเนียมยักษ์ (giant geraniums) จากเกาะ Madeira และพวกดอกไม้ที่แสนแปลกประหลาดอื่นๆ