ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

มะละกอไม่ใช่พืชพื้นถิ่นไทย


มะละกอไม่ใช่พืชพื้นถิ่นไทย
หลายคนอาจสงสัยว่า อ้าว...แล้วที่ใครๆ ก็คิดส้มตำกันทั่วบ้านทั่วเมืองไม่ได้บ่งบอกอยู่แล้วเหรอว่าเป็นของพื้นถิ่นยอดฮิตของอีสาน
จริงครับ...มะละกอเพิ่งเข้าไปถึงอีสานและลาวในช่วงรัชกาลที่ 5 นี่เอง เพราะมีการสร้างทางรถไฟ และแพร่หลายมากขึ้นหลังมีการตัดถนนมิตรภาพ แต่มะละกอของอีสานก็ไม่ได้ลูกใหญ่ลูกโตแบบมะละกอของภาคกลาง เรื่องนี้ยืนยันได้ เพราะผู้เขียนเองเป็นลูกอีสาน เจอแต่มะละกอป้อมๆ แกรนๆ ตอนเข้ามากรุงเทพฯ ครั้งแรกเห็นมะละกอลูกใหญ่ยังตกใจคิดว่าของปลอม

มะละกอเป็นพืชพื้นถิ่นทางอเมริกากลางครับ โดยเฉพาะแถวเม็กซิโกนี่ขึ้นดีนักแล มีหลักฐานสองสายว่าไม่สเปนก็โปรตุเกสเป็นผู้นำเข้ามะละกอมาปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเขตอาณานิคมของพวกเขา คนไทยสมัยก่อนคงกินมะละกอที่มาจากมาเลเวีย เพราะเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า “มะละกา” นานเข้าก็เพี้ยนเป็น “มะละกอ” อย่างที่เรียกกันอยู่ในปัจจุบัน
ส่วน “ส้มตำ” ที่นิยมไปทั่วนี้ อาจจะเนื่องมาจากความคิดเชิงสร้างสรรค์ของบรรดาเชฟชาวไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องการปรุงแต่งอาหารรสเลิศ เลยเอามายำทำ “ตำส้ม” กิน เรียกแบบนี้ถูกแล้วนะครับ เพราะเป็นตำที่มีรสส้มหรือเปรี้ยวนำ สมัยก่อนนิยมเอาผลไม้อย่างอื่นที่มีรสส้มมาตำ เช่น มะม่วง มะยม ตอนหลังก็มีตำถั่ว แตง กล้วย แล้วแต่จะหาผลไม้สดมาปรุงได้ พอได้ลองมะละกอดิบ แล้วก็คงติดใจ เพราะเนื้อมะละกอไม่เปรี้ยวจัดอย่างที่เคยกินกันมาก่อน ทั้งยังดูดซับรสชาติของเครื่องปรุงอย่างอื่นได้ดี ทำให้ได้ที่กลมกล่อม

พอเข้าไปถึงอีสาน ชาวบ้านก็คงปรับปรุงตามสไตล์ของตนเอง ที่ใส่ปลาร้าก็เพราะอาหารแทบทุกอย่างของอีสานก็ล้วนใส่ปลาร้า ปรากฎว่ารสชาตินัวเนียนกว่าตำแบบไทยภาคกลาง ทำให้ตำส้มมะละกอปลาร้าแบบอีสานแพร่งพรัดกระจัดกระจายไปตามการอพยพย้ายถิ่นทำงานของคนอีสาน วัฒนธรรมการกินนี้จึงฮอตฮิตไปทุกหัวระแหง   

ในปัจจุบัน มีการระบุว่าไทยเราเป็นชาติที่บริโภคมะละกอมาที่สุดในโลก ทั้งสุก ดิบ ทำน้ำปั่น เอาเนื้อดิบไปทำแกง และแน่นอนทำ “ส้มตำ” นานาชนิดตามสั่ง   ดูเหมือนว่าเราจะใช้ประโยชน์จากมะละกอได้รอบด้าน แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่เราไม่ได้ประโยชน์จากมะละกอ นั่นก็คือ “ยาง” สีขาวน้ำนมจากเปลือกนั่นเอง เพราะสิ่งนี้ชาวตะวันตกเอาไปเข้ากรรมวิธีปลิตออกมาเป้น “ผงหมักเนื้อย่าง” ครับ
แหม่...โพสต์เรื่องส้มตำตอนเที่ยงๆ แบบนี้ มันช่างเปรี้ยวปากเหลือเกิน



รายการบล็อกของฉัน